1. เปลี่ยนการแสดงผล :
    2. C
    3. C
    4. C
    5. C
    6. ตัวช่วยการเข้าถึงเว็บไซต์
    7. แผนผังเว็บไซต์
    8. EN
    9. TH
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
Ministry of Agriculture and Cooperatives
เกษตรฯ หารือร่วมกับผู้แทน EJF แจงความคืบหน้าการดำเนินการแก้ไขการทำประมงผิดกฎหมายของไทย
21 ส.ค. 2560
385
0
เกษตรฯหารือร่วมกับผู้แทน
เกษตรฯ หารือร่วมกับผู้แทน EJF แจงความคืบหน้าการดำเนินการแก้ไขการทำประมงผิดกฎหมายของไทย

เกษตรฯ หารือร่วมกับผู้แทน EJF แจงความคืบหน้าการดำเนินการแก้ไขการทำประมงผิดกฎหมายของไทย

          พลเอกปัฐมพงศ์ ประถมภัฏ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังหารือร่วมกับนาย นายสตีฟ เทรนท์ ผู้อำนวยการมูลนิธิยุติธรรมและสิ่งแวดล้อม หรือ EJF ในประเด็นการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ว่า รัฐบาลไทยได้ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยการดำเนินงานด้านการประมงมีความคืบหน้าตามข้อเสนอแนะของ EJF ในหลายเรื่อง อาทิ 1. การแก้ไข พ.ร.ก.การประมง 2558 ทั้ง 2 ฉบับ ซึ่งเป็นกรอบกฎหมายหลัก วางระบบการควบคุมและบริหารจัดการประมงเพื่อต่อต้านการประมงไอยูยู และบริหารจัดการทรัพยากรอย่างยั่งยืน และมีการปรับปรุง พ.ร.ก. ให้มีความเหมาะสมและมีประสิทธิภาพมากขึ้น 2. การเข้าเป็นภาคี เอฟ เอ โอ ความตกลงว่าด้วยมาตรการรัฐเจ้าของท่า (PSMA) และล่าสุดได้เข้าเป็นภาคี UNFSA และ SIOFA 3. ปรับปรุงการบังคับใช้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยจัดตั้งหน่วยสืบสวนกลางด้านการละเมิดสิทธิมนุษยชนในอุตสาหกรรมประมง และลดขั้นตอนการสั่งการและการบังคับใช้กฎหมายให้รวดเร็วและคล่องตัวขึ้น 4. การลดขนาดกองเรือเพื่อรักษาทรัพยากร และ 5. การปรับปรุงและการติดตั้งระบบ VMS และฐานข้อมูลต่าง ๆ เช่น ระบบการเตือนอัตโนมัติ การวิเคราะห์พฤติกรรมเสี่ยงของเรือ การปรับปรุงและบูรณาการข้อมูล Fishing Info ให้เป็นปัจจุบัน โดยมีข้อมูลเกี่ยวกับเรือและลูกเรือ โดยเป็นฐานข้อมูลรวม online ที่หน่วยงานต่าง ๆ สามารถเข้าถึงได้

         นอกจากนี้ กรมเจ้าท่าได้ออกกฎข้อบังคับสำหรับการตรวจเรือว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขในการตรวจเรือ เพื่อจัดทำเครื่องหมายแสดงหมายเลขประจำเรือ พ.ศ.2559 และมีผลบังคับใช้แล้ว โดยในช่วงเดือน เม.ย. – พ.ค. 60 ที่ผ่านมา กรมเจ้าท่า กรมประมง และ ศูนย์บัญชาการแก้ไขการทำประมงผิดกฎหมาย (ศปมผ.) ร่วมกันสำรวจและจัดทำหมายเลขทะเบียนเรือ โดยกลุ่มเรือเป้าหมายเป็นเรือประมงพาณิชย์ขนาด 10 ตันกรอส และเรือขนถ่าย จำนวน 12,016 ลำ ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว 11,716 ลำ หรือ 97.5% อีกทั้ง กรมประมง และ ศปมผ. ได้พัฒนาระบบฐานข้อมูลหมายเลขทะเบียนเรือ ให้เชื่อมโยงเข้ากับระบบการควบคุมเรือของกรมเจ้าท่า และเชื่อมต่อไปยังระบบ MCS ของ ศปมผ.และกรมประมงแล้ว อีกทั้งยังได้เสริมสร้างความร่วมมือในระดับภูมิภาคอาเซียนเพื่อป้องกันการทำประมงไอยูยู และส่งเสริมการประมงอย่างยั่งยืน โดยไทยผลักดันให้มีการจัดทำนโยบายประมงอาเซียนในการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านการเกษตรและป่าไม้ (AMAF) ครั้งที่ 39 ณ จ.เชียงใหม่ ปลายเดือนกันยายน 2560 ในการนี้ พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะเสนอเป็นเจ้าภาพการจัดประชุมการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายในระดับนานาชาติ พร้อมเชิญ EJF ร่วมจัด ในเดือน มี.ค. 2561 รวมทั้งเชิญกลุ่มอียูและประเทศผู้ผลิตสินค้าประมงรายใหญ่ระดับโลกเข้าร่วมด้วย

          พลเอกปัฐมพงศ์ กล่าวต่อว่า สำหรับผลการตรวจประเมินศูนย์ควบคุมการแจ้งเรือเข้า – ออก (PIPO) ซึ่งมีผู้แทน EJF ร่วมลงพื้นที่ตรวจด้วยนั้น ได้มีการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของศูนย์ PIPO โดยให้สามารถเข้าถึงฐานข้อมูล VMS และเพิ่มบุคลากรให้เหมาะสมกับปริมาณเรือเข้า-ออก ของแต่ละศูนย์ พร้อมจัดตั้งจุดตรวจเรือประมงส่วนหน้า (FIPs) และกำหนดขั้นตอนวิธีปฏิบัติงานให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน โดยเฉพาะการตรวจเรือกลุ่มเสี่ยง ได้เพิ่มศูนย์ PIPO 32 แห่ง และตั้งศูนย์ FIP อีก 19 แห่ง ในจังหวัดชายทะเลทั่วประเทศไทย และที่สำคัญคือ การดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดที่เกี่ยวกับการทำประมงอย่างเข้มงวดและจริงจัง โดยปัจจุบันรัฐบาลไทยได้ดำเนินคดีไปแล้ว ประกอบด้วย เรือประมงในน่านน้ำ 971 คดี เรือประมงนอกน่านน้ำ 91 คดี เป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ 85 คดี และการลงโทษผู้กระทำผิดตามข้อเสนอของ EJF รวมถึงการปรับปรุงการทำงานของคณะกรรมการเปรียบเทียบปรับ และแต่งตั้งคณะกรรมการมาตรการทางปกครองเพื่อให้การพิจารณาคดี และการบังคับมาตรการปกครองมีความคล่องตัวมากขึ้น

Loading...
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ตกลง