กระทรวงเกษตรฯ เตรียมหารือ กระทรวงการคลัง และธนาคารรัฐ หาแนวทางช่วยเหลือสมาชิกสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น
วันนี้ (20 ก.ย.60) เวลา 11.00 น. นายอำนวย ปะติเส ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้รับมอบหมายจาก พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้เข้าพบกับตัวแทนสมาชิกสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด นำโดย นายเผด็จ มุ่งธัญญา ตัวแทนสมาชิกสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด เพื่อรับทราบความคืบหน้าการสานต่อนโยบายช่วยเหลือเยียวยาสมาชิกสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ณ ห้องประชุม 123 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พร้อมให้ความช่วยเหลือบรรเทาปัญหาของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด อย่างเต็มที่ โดยมอบหมายให้กรมส่งเสริมสหกรณ์เข้าไปดูแลช่วยเหลือและติดตามทางสหกรณ์ให้ดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการอย่างใกล้ชิด และให้เป็นตัวกลางในการเชื่อมโยงขบวนการสหกรณ์ต่างๆ เข้ามามีส่วนร่วมในการช่วยเหลือสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด ในการเข้ามาบริหารงานในบัญชีร่วมเพื่อรักษาเสถียรภาพของสหกรณ์ ส่วนการเข้าพบของสมาชิกสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนฯ ในวันนี้ เนื่องจากในเดือนธันวาคม 2560 สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนฯ จะต้องชำระหนี้เยียวยาแก่สมาชิก แม้ศาลแพ่งมีคำสั่ง คดีที่ 1674/2557 เมื่อวันที่ 25 พ.ย.59 ให้สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนฯ ชนะคดี โดยต้องได้รับการชดใช้ความเสียหาย 3,811 ล้านบาท แต่ทรัพย์สินที่เป็นของกลางในคดีนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษได้อายัดไว้ยังไม่สามารถนำออกขายทอดตลาดเพื่อนำมาเยียวยาสมาชิกได้ ทำให้สมาชิกมีความกังวลใจว่าหากกระบวนการทั้งหมดดำเนินการล่าช้าจะไม่ทันกำหนดเวลาชำระหนี้ อย่างไรก็ตาม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มีการติดตามการดำเนินการเพื่อช่วยสมาชิกสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนฯ มาอย่างต่อเนื่อง โดยในวันนี้ได้มาหารือถึงแนวทางการดำเนินการร่วมกัน
ด้าน นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้เตรียมแผนรองรับเพื่อช่วยเหลือสมาชิกสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนฯ ไม่ว่าจะเป็นการติดตามเกี่ยวกับทรัพย์สินของสหกรณ์จากคดีต่างๆ ที่จะขายทอดตลาด และทรัพย์สินจากสหกรณ์ส่วนอื่นที่เป็นเงินสด หรือช่องทางอื่นๆ ที่ทางรัฐจะให้การสนับสนุนได้ เพื่อให้ทันกำหนดการชำระหนี้ในช่วงสิ้นปีนี้ ประมาณ 570 ล้านบาท ส่วนการขอสนับสนุนเงินจากภาครัฐที่จะมาใช้ฟื้นฟูกิจการนั้น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะหารือร่วมกับกระทรวงการคลัง และธนาคารของรัฐเกี่ยวกับรายละเอียดต่างๆ ว่าจะมีแนวทางการช่วยเหลืออย่างไร หลังจากนั้นจะสรุปแนวทางเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป