1. เปลี่ยนการแสดงผล :
    2. C
    3. C
    4. C
    5. C
    6. ตัวช่วยการเข้าถึงเว็บไซต์
    7. แผนผังเว็บไซต์
    8. EN
    9. TH
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
Ministry of Agriculture and Cooperatives
กระทรวงเกษตรฯ เดินหน้ามาตรการหยุดเผาในพื้นที่เกษตร เพิ่มจากกรุงเทพฯ และปริมณฑลอีก 26 จังหวัด พร้อมสร้างวิทยากรปลอดการเผากว่า 15,000 ราย มีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา PM 2.5
22 ม.ค. 2563
1,057
0
PM2.5
กระทรวงเกษตรฯเดินหน้ามาตรการหยุดเผาในพื้นที่เกษตร
กระทรวงเกษตรฯ เดินหน้ามาตรการหยุดเผาในพื้นที่เกษตร เพิ่มจากกรุงเทพฯ และปริมณฑลอีก 26 จังหวัด พร้อมสร้างวิทยากรปลอดการเผากว่า 15,000 ราย มีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา PM 2.5

กระทรวงเกษตรฯ เดินหน้ามาตรการหยุดเผาในพื้นที่เกษตร เพิ่มจากกรุงเทพฯ และปริมณฑลอีก 26 จังหวัด พร้อมสร้างวิทยากรปลอดการเผากว่า 15,000 ราย มีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา PM 2.5

        นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า เนื่องจากปัจจุบันเกิดปัญหาวิกฤติหมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็กที่เกิดขึ้นในพื้นที่หลายจังหวัดของประเทศ โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพและปริมณฑล กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมส่งเสริมการเกษตรตระหนักถึงความสำคัญในการร่วมมือเพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง เพื่อให้สถานการณ์ด้านอากาศของประเทศดีขึ้น ซึ่งในเขตกรุงเทพและปริมณฑลมีพื้นที่ทำการเกษตรส่วนหนึ่ง ดังนั้นการเผาในพื้นที่เกษตรจะทำให้ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กสะสมเพิ่มขึ้น จากที่เป็นปัญหาวิกฤติจากภาคขนส่งและอุตสาหกรรม ณ ปัจจุบันอยู่แล้ว รวมถึงการเผาในพื้นที่การเกษตรยังเป็นการทำลายโครงสร้างและความอุดมสมบูรณ์ของดินและส่งผลต่อการเจริญเติบโตของพืชด้วยเช่นกัน

        นอกเหนือจากพื้นที่เขตรอยต่อของกรุงเทพฯ กับจังหวัดปริมณฑลแล้ว ผลการดำเนินงานในปี 2562 ที่ผ่านมากระทรวงเกษตรฯ ได้เพิ่มพื้นที่ดำเนินการอีกกว่า 26 จังหวัด โดยมอบให้กรมส่งเสริมการเกษตรเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานในสังกัดระดับพื้นที่ ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนเกษตรเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการเผาในพื้นที่การเกษตร สร้างความรู้ความเข้าใจแก่เกษตรจำนวน 15,720 ราย เพื่อสร้างเป็นวิทยากรด้านการทำการเกษตรปลอดการเผารวมทั้งสร้างชุมชนเกษตรปลอดการเผาต้นแบบ จำนวน 166 แห่ง ดำเนินการในพื้นที่ 26 จังหวัด ประกอบด้วย 10 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน น่าน แพร่ พะเยา ตาก และอุตรดิตถ์ และ 16 จังหวัดที่มีการเผาในพื้นที่การเกษตรที่สูง ได้แก่ กาญจนบุรี กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ นครนายก นครพนม นครราชสีมา นครสวรรค์ บุรีรัมย์ ปราจีนบุรี พิจิตร เพชรบูรณ์ ร้อยเอ็ด ลพบุรี สกลนคร และอุดรธานี ตลอดจนได้มีการประสานความร่วมมือกับ หน่วยงานภาคีในพื้นที่ทั้งภาครัฐและเอกชน จัดงานรณรงค์ในท้องถิ่น ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ช่วงวิกฤต หมอกควันภาคเหนือ รวมถึงการจัดทำแปลงนำร่องสาธิตเทคโนโลยีการจัดการเศษวัสดุทดแทนการเผา เป็นต้น จึงมั่นใจว่าเกษตรกรจะมีความเข้าใจและคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการเผาในพื้นที่เกษตร และสามารถนำความรู้นี้ถ่ายทอดไปสู่ประชาชนในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี     พร้อมกันนี้ กรมส่งเสริมการเกษตรยังเร่งเดินหน้ารณรงค์ให้เกษตรกรและประชาชนร่วมกันป้องกันและแก้ไขวิกฤตฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) โดยให้ความสำคัญในการสร้างการมีส่วนร่วมเพื่อรักษาคุณภาพอากาศให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน

       ด้าน นายชาตรี บุญนาค รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน ขณะนี้กรมส่งเสริมการเกษตรได้สั่งการไปยังจังหวัดแล้ว ให้เร่งดําเนินการควบคุม กํากับดูแล และเข้มงวดไม่ให้เกิดการเผาในพื้นที่การเกษตรในความรับผิดชอบอย่างเคร่งครัด และเร่งสร้างการรับรู้ให้เกษตรกรตระหนักถึงผลกระทบจากการเผาในเวทีถ่ายทอดความรู้ต่างๆ รวมทั้งให้ความร่วมมือกับหน่วยงานในพื้นที่ในการแก้ไขและป้องกันปัญหาหมอกควันที่เกิดจากการเผา และฝุ่นละอองขนาดเล็กที่เกิดจากสาเหตุอื่น ๆ ตลอดจนให้การสนับสนุนมาตรการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับภาคการเกษตร ได้แก่ การส่งเสริมให้เกษตรกรเตรียมพื้นที่เพาะปลูก โดยวิธีการไถกลบตอชังทดแทนการเผา การส่งเสริมการนําเศษวัสดุทางการเกษตรมาแปรสภาพให้เกิดประโยชน์ เช่น การทําปุ๋ยหมัก การปลูกเห็ดฟาง การผลิตอาหารสัตว์ การทําถ่านอัดแท่งหรือของประดับ เป็นต้น โดยเกษตรกรสามารถดาวน์โหลดคู่มือและคําแนะนําในการทําเกษตรปลอดการเผาได้ที่ http://www.royalagro.doae.go.th/?page_id=3794 พร้อมกันนี้ กรมส่งเสริมการเกษตรได้นํามาตรการ
ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับภาคการเกษตรเข้าที่ประชุมคณะกรรมการพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ระดับจังหวัด (อ.พ.ก.) และคณะกรรมการอํานวยการขับเคลื่อนงานโยบายสําคัญและการแก้ไขปัญหาภาคเกษตร ระดับจังหวัด (Chief of Operation, Coo) เพื่อยกระดับความร่วมมือและความสําคัญ ทั้งนี้ ขอความร่วมมือประชาชนหากพบการเผาเศษวัสดุในพื้นที่การเกษตร ให้แจ้งเหตุไปยังสายด่วนฉุกเฉิน 1784 สําหรับทุกพื้นที่ หรือ 1362 สําหรับพื้นที่ป่า ทั้ง 2 เบอร์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

Loading...
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ตกลง