1. เปลี่ยนการแสดงผล :
    2. C
    3. C
    4. C
    5. C
    6. ตัวช่วยการเข้าถึงเว็บไซต์
    7. แผนผังเว็บไซต์
    8. EN
    9. TH
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
Ministry of Agriculture and Cooperatives
“ผู้อำนวยการใหญ่ FAO” ชื่นชมนโยบายปฏิรูปการเกษตรไทยของกระทรวงเกษตรฯ
19 ก.พ. 2563
585
0
FAO
“ผู้อำนวยการใหญ่FAO”ชื่นชมนโยบายปฏิรูปการเกษตรไทยของกระทรวงเกษตรฯ
“ผู้อำนวยการใหญ่ FAO” ชื่นชมนโยบายปฏิรูปการเกษตรไทยของกระทรวงเกษตรฯ

“ผู้อำนวยการใหญ่ FAO” ชื่นชมนโยบายปฏิรูปการเกษตรไทยของกระทรวงเกษตรฯ

     ผู้อำนวยการใหญ่ FAO ชื่นชมนโยบายปฏิรูปการเกษตรไทยของกระทรวงเกษตรฯ ชี้ช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อยให้เข้าถึงตลาดและพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างเห็นผลพร้อมโชว์ความสำเร็จโรงเรือนอัจฉริยะเทคโนโลยีที่ช่วยพลิกภาคการเกษตรไทยสู่เกษตร 4.0 ยืนยันความเป็นหุ้นส่วนการพัฒนาด้านเกษตรร่วมกับ FAO โดยการพัฒนาตามแนวคิด Hand in Hand Initiatives

      นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้รับมอบจากนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้เป็นหัวหน้าคณะให้การต้อนรับพร้อมหารือแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นกับนายฉู ตงหยู (Mr. Qu Dongyu) ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ซึ่งเดินทางมาเยือนประเทศไทยระหว่างวันที่ 17-18 ก.พ. 63 ว่า จากการหารือร่วมกันทาง FAO  ได้นำเสนอแนวคิดการจับคู่เพื่อการพัฒนา ( Hand in Hand Initiatives ) ว่าเป็นแนวทางการจับคู่การพัฒนาระหว่างประเทศที่พัฒนาแล้วกับประเทศที่พัฒนาน้อยที่สุด โดยเชิญชวนให้ประเทศไทยให้การสนับสนุนกองทุนเพื่อการพัฒนาด้านอาหารและเกษตรในภูมิภาคเอเชีย และขอรับการสนับสนุนโครงการความร่วมมือในแนวคิด Hand in Hand Initiatives ในฐานะที่ไทยมีศักยภาพที่จะเผยแพร่องค์ความรู้และประสบการณ์ด้านการเกษตรแก่ประเทศกลุ่ม CLMV พร้อมกันนี้ยังได้แสดงความจำนงสนับสนุนประเทศไทยให้เป็น Region of Hub หรือศูนย์กลางในการส่งเสริมด้านเทคโนโลยีและวิวัฒนาการเกษตร ให้กับประเทศในเอเชียที่ด้อยพัฒนาซึ่งไม่มีทางออกทะเล อาทิ สปป.ลาว อัฟกานิสถาน เป็นต้น โดยเชื่อมั่นว่าไทยจะเป็น HUB ระดับภูมิภาคโดยใช้หลักการ Hand in hand initiatives 

         ในการนี้ นายอลงกรณ์ฯ ยังได้นำเสนอนโยบายการปฏิรูปการเกษตรของกระทรวงเกษตรฯตามนโยบายการพัฒนาและช่วยเหลือเกษตรกร ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และตามนโยบายรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีฯ อาทิ นโยบายการตลาดนำการผลิต การพัฒนาฐานข้อมูลด้านการเกษตร (Big data) การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี นวัตกรรมและภูมิปัญญาในการพัฒนาสินค้าเกษตร เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและสร้างคุณภาพและมาตรฐานของสินค้าเกษตรให้ปลอดภัยต่อผู้ผลิตและผู้บริโภค รวมทั้ง การใช้เทคโนโลยีในภาคการเกษตร เช่น Agri-map Digital Agriculture, E - Commerce โดยล่าสุดกระทรวงเกษตรฯ ได้ร่วมกับบริษัท Lazadaจัดทำ platform เพื่อให้ smart farmer สามารถขายสินค้า online ได้สะดวกขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการจัดตั้งศูนย์เทคโนโลยีเกษตร 77 จังหวัดภายในปี 2563 และยินดีหาก FAO จะมีความร่วมมือกับไทยผ่านโครงการต่างๆ ต่อไป และภายหลังการรับฟังข้อมูล ผู้อำนวยการใหญ่ FAO ได้กล่าวชื่นชมว่าเป็นนโยบายที่ดีที่สามารถช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อยให้เข้าถึงตลาด และพัฒนาคุณภาพชีวิตเกษตรกร ทั้งนี้ นายอลงกรณ์ฯ ยังได้กล่าวขอบคุณ FAO ถึงความร่วมมือในหลายประเด็น โดยเฉพาะการสนับสนุนกิจกรรมวันดินโลก ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ ๕ ธค. ของทุกปี ด้วยการมอบรางวัล King Bhumibol World Soil Day Awardซึ่งถือเป็นการเชิดชูพระอัจฉริยภาพด้านการอนุรักษ์และพัฒนาทรัพยากรดินของในหลวงรัชกาลที่ ๙  

        สำหรับในวันที่ 18 กพ.นายอลงกรณ์ พร้อมด้วย นายพิศาล พงศาพิชย์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์นายธนวรรษ เทียนสิน อัครราชฑูต(ฝ่ายเกษตร) ผู้แทนไทย ประจำสหประชาชาติ ณ กรุงโรม, ดร.วราภรณ์ พรหมพจน์ ประธานอนุกรรมการเกษตรอัจฉริยะ นำคณะFAO ลงพื้นที่เยี่ยมชมการขับเคลื่อนเทคโนโลยีการเกษตรอัจฉริยะในโรงเรือนที่ศูนย์เครือข่ายเรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรอำเภออู่ทองจังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าของการใช้เทคโนโลยีการเกษตรอัจฉริยะเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตมะเขือเทศภายใต้กรอบความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กับหน่วยงานต่าง ๆทั้ง ภาครัฐและเอกชน เช่น บริษัท Shanghai Zuoanxiuhul Electronic Technology จำกัด ผู้ผลิตเซนเซอร์ทางการเกษตร เครื่องผสมปุ๋ยสำหรับระบบน้ำหยดแบบอัตโนมัติ และ IoT Platform ด้านการเกษตร ซึ่งเป็นการขับเคลื่อนเทคโนโลยีการเกษตรอัจฉริยะในโรงเรือน ในการเปลี่ยนผ่านภาคการเกษตรไทยสู่เกษตร 4.0 ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ของรัฐบาล และนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 

       “ความร่วมมือกันในการสนับสนุนด้านเทคโนโลยีเกษตรอัจริยะในโรงเรือนหากมีการขยายการดำเนินงานให้ครอบคลุมชนิดพืชและพื้นที่ จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการที่ภาครัฐจะนำข้อมูลมาบริหารจัดการและกำหนดทิศทางนโยบายด้านการเกษตรของประเทศ นอกจากนี้ภายหลังการเยี่ยมชม ทางFAO ได้กล่าวชื่นชมต่อความสำเร็จของภาคการเกษตรไทยในการนำเทคโนโลยีดิจิตัลการเกษตรมาใช้ในการเพิ่มศักยภาพด้านการผลิต ผลผลิต และรายได้ของเกษตรกร จนปัจจุบันประเทศไทยได้เป็นผู้ส่งออกอาหารอันดับที่ 12 ของโลก และเป็นอันดับ 2 ของเอเชีย รองจากจีนเท่านั้น จากการใช้ (IOT platform) ทำให้ประเทศไทยเป็นผู้นำของภูมิภาค พร้อมกันนี้กระทรวงเกษตรฯ ยินดีสนับสนุนตามนโยบายที่นำเสนอซึ่งจะได้มอบหมายให้ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ กรุงโรม เป็นผู้ประสานงานต่อไป” นายอลงกรณ์ กล่าว 

 

Loading...
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ตกลง