1. เปลี่ยนการแสดงผล :
    2. C
    3. C
    4. C
    5. C
    6. ตัวช่วยการเข้าถึงเว็บไซต์
    7. แผนผังเว็บไซต์
    8. EN
    9. TH
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
Ministry of Agriculture and Cooperatives
​เดินหน้า “5 ยุทธศาสตร์เฉลิมชัย” ฝ่าวิกฤตโควิด19 “กระทรวงเกษตรฯ” ร่วมมือ “จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย” เพิ่มศักยภาพใหม่การส่งออกสินค้าเกษตรด้วยเทคโนโลยีจุลินทรีย์และสมาร์ทแพ็กกิ้งยืดอายุผลไม้และสินค้าเกษตร
4 พ.ค. 2564
726
0
“อลงกรณ์” ตั้งเป้าต้นปีหน้าเริ่มใช้นวัตกรรมใหม่ ผนึก “พาณิชย์” บุกตลาดจีน รัสเซีย ตะวันออกกลาง เอเซียกลางและยุโรปโดยรถไฟสาย “อีต้าอีลู่” (เส้นทางสายไหม)
​เดินหน้า“5ยุทธศาสตร์เฉลิมชัย”
​เดินหน้า “5 ยุทธศาสตร์เฉลิมชัย” ฝ่าวิกฤตโควิด19 “กระทรวงเกษตรฯ” ร่วมมือ “จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย” เพิ่มศักยภาพใหม่การส่งออกสินค้าเกษตรด้วยเทคโนโลยีจุลินทรีย์และสมาร์ทแพ็กกิ้งยืดอายุผลไม้และสินค้าเกษตร

         นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนเทคโนโลยีเกษตร 4.0 และประธานคณะกรรมการบริหาร AIC (Agritech and Innovation Center) เปิดเผยวันนี้ ว่า ตนและคณะจะประชุมกับศาสตราจารย์ ดร.บัณฑิต เอื้ออาภรณ์ อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและทีมวิจัยในวันพรุ่งนี้ (5 พ.ค.) เวลา 13.00 น. ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เรื่องความร่วมมือด้านเทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม ระหว่าง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นศูนย์ AIC ที่ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลโดยเฉพาะ 3 โครงการที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ทำการวิจัยและพัฒนา ได้แก่ 1. โครงการพัฒนาวัคซีนโควิดจากพืชโดยจะเริ่มผลิตวัคซีนโควิดได้ปลายปีนี้ 2. โครงการพัฒนาการยืดอายุผลไม้ด้วยเทคโนโลยีจุลินทรีย์ 3. โครงการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ยืดอายุและความสดของผัก ผลไม้และสินค้าเกษตร และ 4. โครงการเทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรมด้านอื่นๆ เช่น โคนมและผลิตภัณฑ์นม เป็นต้น

         นายอลงกรณ์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับโครงการพัฒนาการยืดอายุผลไม้ด้วยเทคโนโลยีจุลินทรีย์และโครงการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ (Smart Packing) ยืดอายุและความสดของผัก ผลไม้และสินค้าเกษตรจะนำนวัตกรรมใหม่นี้มาใช้กับแผนโลจิสติกส์เกษตรทางเลือกใหม่ในยุคโควิด เช่น การขนส่งระบบรางจากไทยผ่านจีนไปทุกมณฑลของจีน เกาหลี ภูมิภาคเอเชียกลางภูมิภาคตะวันออกกลาง รัสเซีย สแกนดิเนเวีย ยุโรปและอังกฤษ ภายใต้ขบวนรถไฟอีต้าอีลู่ (เส้นทางสายไหม) บนความร่วมมือระหว่าง ไทย-จีน-ลาว-เวียดนามเพื่อลดต้นทุนโลจิสติกส์และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย

         “มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด19 ของแต่ละประเทศทำให้ต้นทุนการขนส่งโลจิสติกส์เพิ่มขึ้นทั้งทางบกทางน้ำและใช้เวลานานขึ้นในการข้ามแดนตั้งแต่ปี 2563 จนถึงวันนี้ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ จึงสั่งการให้เร่งแก้ไขปัญหาและวางแนวทางโลจิสติกส์ทางเลือกใหม่ๆ ภายใต้ “5 ยุทธศาสตร์เฉลิมชัย” และประกอบกับเส้นทางรถไฟสายจีน-ลาว จะแล้วเสร็จในเดือนธันวาคมนี้ เราจึงเตรียมความพร้อมล่วงหน้าในการขนส่งสินค้าทางรางด้วยเส้นทางนี้ โดยใช้โลจิสติกส์ฮับที่อุดรธานีและหนองคาย ตั้งเป้าเริ่มคิกออฟต้นปีหน้า อีกเส้นทางคือการขนส่งระบบรางผ่านด่านผิงเสียงบริเวณพรมแดนเวียดนามกับเขตปกครองตนเองกวางสีจ้วงของจีน เราหวังว่าถ้าสามารถใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ยืดอายุผลไม้สด เช่น ทุเรียน มะม่วง มังคุด ลำไย เงาะ ลองกอง ขนุน ผัก สมุนไพร เป็นต้น จะทำให้มีทางเลือกในการขนส่งที่ถูกลงมีเวลาแน่นอนจากต้นทางถึงปลายทางและใช้เวลาน้อยลงแต่มีช่วงเวลาขายยาวขึ้นเป็นประโยชน์ต่อผู้ค้าปลีกที่เป็นลูกค้าของไทยทั้งขายแบบออนไลน์และออฟไลน์ และนี่คือการสร้างศักยภาพใหม่ในการส่งออกของเรา” นายอลงกรณ์ กล่าว

Loading...
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ตกลง