นายนราพัฒน์ แก้วทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้รับมอบหมายจาก ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พบกับนายคริสเตียน เรเรน บาร์เกตโต (H.E. Mr. Christian Rehren Bargetto) เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐชิลี ประจำประเทศไทย ในวันที่ 30 มิถุนายน 2564 ณ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เนื่องในโอกาสพ้นจากหน้าที่ และได้หารือถึงการปรับปรุงบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือด้านการเกษตร (ที่ลงนามไปเมื่อ 15 ส.ค. 55) เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์และโครงสร้างหน่วยงานในปัจจุบัน ซึ่งเอกอัครราชทูตฯ ได้นำส่งร่าง MOU ให้กระทรวงเกษตรฯ แล้ว
"ในส่วนของกระทรวงเกษตรฯ ได้มอบหมายให้ผู้อำนวยการสำนักการเกษตรต่างประเทศ ประสานงานกับสถานเอกอัครราชทูตชิลี และกระทรวงเกษตรชิลี เพื่อเร่งรัดให้ได้ข้อสรุปของ MOU ฉบับใหม่ และหลังจากมีผลบังคับใช้ หน่วยงานของไทยและชิลีจะได้ทำงานและมีความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดและเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น" นายนราพัฒน์ กล่าว
ทั้งนี้ เอกอัครราชทูตชิลี ได้กล่าวชื่นชมประเทศไทยที่มีการอนุรักษ์ดิน และการทำเกษตรที่พัฒนาอย่างยั่งยืนในชนบท โดยชิลีเองได้นำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (Sufficient Economy Philosophy: SEP) ไปปรับใช้ ซึ่งดำเนินการไปด้วยดีที่ชิลี
สำหรับมูลค่าการค้าสินค้าเกษตรไทย-ชิลี ในปี 2563 มีมูลค่าการค้า 7,751 ล้านบาท โดยสินค้าเกษตรส่งออกที่สำคัญของไทยไปยังชิลี ได้แก่ 1) ทูน่าอื่น ๆ บรรจุภาชนะอากาศผ่านเข้าออกไม่ได้ 1,759 ล้านบาท (58.8%) 2) ถุงมืออื่น ๆ 368 ล้านบาท (12.3%) 3) สับปะรด บรรจุภาชนะอากาศผ่านเข้าออกไม่ได้ 152 ล้านบาท (5.1%) 4) ยางนอกชนิดอัดลมใช้กับรถยนต์นั่ง 78 ล้านบาท (2.6%) และ 5) กะทิสำเร็จรูป 44 ล้านบาท (1.8%)
และสินค้าเกษตรนำเข้าที่สำคัญของไทยจากชิลี ได้แก่ 1) ปลาแซลมอนแอตแลนติก และแซลมอนดานูบ 1,417 ล้านบาท (29.8%) 2) ปลาแซลมอนแปซิฟิกอื่น ๆ 426 ล้านบาท (9.0%) 3) ปลาเทราต์ 372 ล้านบาท (7.8%) 4) เชอร์รี่เปรี้ยว (พรูนัสเซราซัส) อื่นๆ 340 ล้านบาท (7.1%) และ 5) ไขมันและน้ำมันอื่นของปลา 236 ล้านบาท (5.0%)