นางสาวอัญมณี ถิรสุทธิ์ อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าวว่า ในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ในวันที่ 2 เมษายน 2567 นี้ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจด้วยความวิริยะอุตสาหะ เพื่อประโยชน์สุขแก่ปวงชนมาอย่างยาวนาน ซึ่งตลอดระยะเวลากว่า 28 ปีที่ผ่านมา กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้ร่วมสนองงานตามพระราชดำริ โดยสานต่อการดำเนินโครงการตามพระราชดำริในโรงเรียนถิ่นทุรกันดาร เพื่อช่วยเหลือเด็กนักเรียนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีความรู้และทักษะในการทำงานจากการฝึกปฏิบัติจริง ปลูกฝังให้รู้จักการจดบันทึกบัญชี รายรับ รายจ่ายส่วนตัว อันเป็นพื้นฐานสำคัญ
ในการดำเนินชีวิตของตนเองและถ่ายทอดความรู้สู่ครอบครัวและชุมชน สามารถนำความรู้ไปประกอบอาชีพในอนาคตต่อไปได้รวมไปถึงการพัฒนาให้กลุ่มอาชีพประชาชนให้มีความเข้มแข็ง มีความมั่นคงทางรายได้ สามารถใช้บัญชีเป็นเครื่องมือในการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้น สำหรับในปีงบประมาณ 2567 กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้ร่วมขับเคลื่อนโครงการตามพระราชดำริ จำนวน 3 โครงการ ประกอบด้วย
โครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนฯ การดำเนินงานโครงการเริ่มต้นจากโครงการส่งเสริมกิจกรรมสหกรณ์ในโรงเรียนและสานต่อด้วยโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน โดยกรมฯ เข้าไปวางระบบบัญชี และให้ความรู้ด้านการบัญชีที่เหมาะสมแก่ครู
และนักเรียน ตามแนวทางที่ให้ “เด็กและเยาวชนเป็นศูนย์กลางในการพัฒนา” โดยใช้โรงเรียนเป็นฐานในการพัฒนาคน พัฒนาการเกษตร สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรม และเป็นการพัฒนาแบบองค์รวม โดยสอดแทรกการสอนแนะการจัดทำบัญชี ไว้ในกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง เพื่อฝึกให้เด็กและเยาวชนมีความรู้ด้านการบัญชี พร้อมปลูกฝังให้รักการจดบันทึกบัญชี สามารถนำความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันของตนเอง ครอบครัว และชุมชนได้ ที่สำคัญยังมุ่งให้รู้จักใช้บัญชีเป็นเครื่องมือในการพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน มีเป้าหมายคือ โรงเรียนในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กรุงเทพมหานคร (กทม.) สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) รวม 527 โรงเรียน ในพื้นที่ 51 จังหวัด
โครงการพัฒนากลุ่มอาชีพประชาชนฯ ส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจในการจัดทำบัญชีให้แก่กรรมการและผู้ทำบัญชีให้สามารถจัดทำบัญชีและนำข้อมูลทางบัญชีไปใช้ในการบริหารจัดการธุรกิจได้อย่างเหมาะสมกับแต่ละกลุ่มอาชีพ สมาชิกมีรายได้เพิ่มขึ้น ส่วนการดำเนินการได้มอบหมายให้สำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ในพื้นที่ ดำเนินการศึกษาหาข้อมูล และประสานงานกับกลุ่มอาชีพ เพื่อจัดทำแผนงานและโครงการ พร้อมคัดสรรคนในพื้นที่กลุ่มให้ทำหน้าที่สอนแนะและติดตามผลการจัดทำบัญชี ของกรรมการและผู้ทำบัญชี มีเป้าหมาย คือ กรรมการและผู้ทำบัญชี จำนวน 174 ราย (กลุ่มดำเนินธุรกิจ จำนวน 87 กลุ่ม และกลุ่มไม่ดำเนินธุรกิจ จำนวน 43 กลุ่ม)
โครงการส่งเสริมเศรษฐกิจพอเพียงในชุมชนฯ สอนแนะการจัดทำบัญชีให้แก่กลุ่มเศรษฐกิจพอเพียงฯ เพื่อส่งเสริมให้กรรมการและผู้ทำบัญชี สามารถจัดทำบัญชีได้ และนำข้อมูลทางบัญชีไปใช้ในการบริหารจัดการให้กลุ่มมีความเข้มแข็ง สมาชิกมีรายได้เพิ่มขึ้น พึ่งพาตนเองได้ มีความรู้ ความสามารถที่จะสร้างความก้าวหน้าให้แก่ตนเองและส่งผลให้คนในครอบครัว มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีเป้าหมาย คือ กลุ่มเศรษฐกิจพอเพียงฯ ประกอบด้วย กรรมการและผู้ทำบัญชี จำนวน 108 ราย (กลุ่มดำเนินธุรกิจ จำนวน 54 กลุ่ม และกลุ่มไม่ดำเนินธุรกิจ จำนวน 61 กลุ่ม)
นอกจากนี้ กรมฯ ได้ร่วมสนับสนุนงานตรวจสอบบัญชี ในโครงการตามพระราชดำริอื่น ๆ ได้แก่ ศูนย์ภูฟ้าพัฒนาฯ จังหวัดน่าน ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาอมก๋อยฯ จังหวัดเชียงใหม่ และโครงการอุทยานธรรมชาติวิทยาฯ จังหวัดราชบุรี
“กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้เดินหน้าส่งเสริมภูมิปัญญาทางบัญชีแก่เด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร รวมไปถึงพัฒนากลุ่มอาชีพ ให้มีความรู้ในการจดบันทึกบัญชี ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการวางรากฐานการดำเนินชีวิตและการประกอบอาชีพ
และมุ่งหวังว่าจะนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้น” อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าว