1. เปลี่ยนการแสดงผล :
    2. C
    3. C
    4. C
    5. C
    6. ตัวช่วยการเข้าถึงเว็บไซต์
    7. แผนผังเว็บไซต์
    8. EN
    9. TH
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
Ministry of Agriculture and Cooperatives
ตราสัญลักษณ์ 132 ปี กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
อนุสัญญาว่าด้วยการอนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำ
9 มี.ค. 2560
4,810
0

อนุสัญญาว่าด้วยการอนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำ
(Convention on Wetllands of International Importance as Waterfowl Habitat: RAMSAR, 1971)

ความเป็นมาและสถานะ

อนุสัญญาพื้นที่ชุ่มน้ำมีทั้งสิ้น 12 มาตรา มีผลบังคับใช้เมื่อปี 1975 จนถึงปัจจุบันมีภาคีสมาชิกจำนวน 91 ประเทศ ประเทศไทยยังไม่ได้ให้สัตยาบัน ขณะนี้จึงยังไม่มีความผูกพันทางกฎหมายในการปฏิบัติตามพันธกรณี

ท่าทีของประเทศไทยและการดำเนินการ

คณะรัฐมนตรีได้พิจารณาเห็นชอบในหลักการการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาพื้นที่ชุ่มน้ำ เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2540 โดยให้กระทรวงต่างประเทศลงนามการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญา และได้คัดเลือกเสนอให้พรุควนขี้เสี้ยนบริเวณเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย จ.พัทลุง เป็น Ramsar Site ของประเทศไทย และให้ สผ. เป็นหน่วยงานประสานระดับชาติ และตั้งงบประมาณเป็นเงินบริจาคเพื่อสนับสนุนอนุสัญญาฯ ตามอัตรากำหนด

องค์กรที่เกี่ยวข้อง

- คณะอนุกรรมการจัดการพื้นที่ชุ่มน้ำ  
  ประธาน : รองปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ 
  เลขาฯ : ผอ. กองประสานการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สผ.

- คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ 
  ประธาน : นายกรัฐมนตรี
  เลขาฯ : ปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์

พันธกรณีที่สำคัญ และโครงการ/กิจกรรมที่ได้ดำเนินการไปแล้ว

พันธกรณีที่สำคัญ โครงการ/กิจกรรมสำคัญที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้ดำเนินการไปแล้ว
ม. 2 กำหนดว่า ประเทศภาคีต้องกำหนด ให้พื้นที่ชุ่มน้ำในอาณาเขตประเทศตนเอง อย่างน้อย 1 แห่ง ถูกบรรจุชื่ออยู่ใน "บัญชีรายชื่อพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีตามความสำคัญ ระดับนานาชาติ" และจะต้องดูแลรักษา พื้นที่ชุ่มน้ำนั้นให้ดำรงไว้เป็นอย่างดี ซึ่งจะต้องอยู่บนพื้นฐานของความสำคัญ ระดับนานาชาติในเรื่องนิเวศวิทยา พฤกษศาสตร์สัตววิทยา ชลวิทยา และอุทกวิทยา

หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
หน่วยงานภายในกระทรวงเกษตรฯ กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ กระทรวงมหาดไทย และมหาวิทยาลัยต่างๆ
- ครม. มีมติเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2540 ให้พรุ ควนขี้เสี้ยน บริเวณเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย จ.พัทลุง เป็น Ramsar Site
- การยกร่างนโยบายมาตรการและแผนปฏิบัติการ จัดการพื้นที่ชุ่มน้ำ ซึ่งได้ผ่านการเห็นชอบของ ครม. แล้ว
- ตรา พ.ร.บ. สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535
- ตรา พ.ร.บ. พันธุ์พืช (ฉบับที่ 2) ซึ่งสภานิติบัญญัติแห่งชาติมีมติผ่านเป็น กฎหมายเมื่อวันที่13 มีนาคม 2535
ม. 3 กำหนดให้ภาคีสมาชิกพิจารณาดำเนินการ ให้มีการนำเรื่องการอนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำ บรรจุอยู่ ในแผนการใช้ที่ดินแห่งชาติ (National Land-Use Planning) โดยที่การวางแผนและ การปฏิบัติการนั้นจะต้องเป็นไป เพื่อการส่งเสริมสนับสนุนให้มีการใช้ประโยชน์อย่างชาญฉลาด ต่อพื้นที่ชุ่มน้ำภายในอาณาเขตประเทศตนให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้  
ม. 4.1 ภาคีจักต้องสนับสนุนการอนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำ และนกน้ำโดยการจัดตั้งพื้นที่สงวนของพื้นที่ชุ่มน้ำ ไม่ว่าพื้นที่ชุ่มน้ำเหล่านั้นจะถูกบรรจุรายชื่ออยู่ในบัญชี หรือไม่ก็ตาม และจะต้องมีมาตรการคุ้มครองพื้นที่เหล่านั้นด้วย - มีการจำแนกพื้นที่ชุ่มน้ำในประเทศไทย โดยกรมป่าไม้ ไว้ทั้งสิ้น 42 แห่ง
ม. 4.5 ภาคีจักต้องส่งเสริมสนับสนุนการฝึกอบรมแบบบุคลากร ที่มีหน้าที่รับผิดชอบในเรื่องพื้นที่ชุ่มน้ำให้มีความรู้ ความชำนาญของเรื่องการศึกษาวิจัยพื้นที่ชุ่มน้ำ การจัดการพื้นที่ชุ่มน้ำ และการพิทักษ์คุ้มครองพื้นที่ชุ่มน้ำ  

 

ชื่อ พื้นที่ (ไร่) ที่ตั้งจังหวัด
ลุ่มน้ำเชียงแสน 62,500 เชียงราย
พรุหญ้าท่าตอน 37,500 เชียงใหม่
หนองหลวง 12,500 เชียงราย
หนองห้าง 4,625 เชียงราย
หนองเล็งทราย 6,562 พะเยา
กว๊านพะเยา 14,375 พะเยา
เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงโขงหลง 8,062 หนองคาย
ลุ่มน้ำโมงตอนล่าง 62,500 หนองคาย
เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหนองหัวคู 70 อุดรธานี
หนองหานกุมภาวปี 28,125 อุดรธานี
หนองหาร 78,250 สกลนคร
เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหนองแวง 109 ชัยภูมิ
หนองละหาร 15,625 ชัยภูมิ
ลำน้ำมูล 337,500 มหาสารคาม บุรีรัมย์ สุรินทร์ และศรีษะเกษ
สบน้ำมูล – น้ำชี 60,937 ศรีษะเกษและอุบลราชธานี
ลำปลายมาศ 11,875 บุรีรัมย์
เขตห้ามล่าสัตว์ป่าห้วยจระเข้มาก และเขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำห้วยตลาด 7 8,310 บุรีรัมย์
เขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำสนามบิน 3,568 บุรีรัมย์
ลำโดมใหญ่ 30 กม. อุบลราชธานี
ที่ราบลุ่มแม่น้ำยม 312,500 สุโขทัย และพิษณุโลก
บึงสีไฟ 5,062 พิจิตร
บึงบอระเพ็ด 132,737 นครสวรรค์
ลำน้ำแควใหญ่และสาขา 403 กม. ตาก อุทัยธานีและกาญจนบุรี
ที่ราบภาคกลางตอนล่าง 11,875,000 ภาคกลางตอนร่าง
อ่าวไทย 150 กม.  
น้ำขลุง 156,250 จันทบุรี และตราด
อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด 81,250 ประจวบคีรีขันธ์
ทุ่งคา 31,250 ชุมพร
อ่าวบ้านดอน 120 กม. สุราษฎร์ธานี
แม่น้ำตาปีและเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหนองทุ่งทอง 40,312 สุราษฎร์ธานี
ปากน้ำปากพนัง 93,750 นครศรีธรรมราช
เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย 281,625 พัทลุง สงขลา และนครศรี-ธรรมราช สงขลา
ทะเลสาบสงขลา 650,000 ปัตตานี
อ่าวปัตตานี 31,250 นราธิวาส
ป่าพรุ 216,475 สตูล
เกาะตะรุเตา 12,500 ตรังและสตูล
ป่าชายเลนปะเหลียน - ละงู 195,000 ตรัง
เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง และอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม 165,625 กระบี่
อ่าวกระบี่ 71,250 พังงา
อ่าวพังงา 40,625 ภูเก็ต
ฝั่งทะเลด้านตะวันออกของภูเก็ต 13,125 ระนอง
บางเบน 50,000  
Loading...
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ตกลง