1. เปลี่ยนการแสดงผล :
    2. C
    3. C
    4. C
    5. C
    6. ตัวช่วยการเข้าถึงเว็บไซต์
    7. แผนผังเว็บไซต์
    8. EN
    9. TH
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
Ministry of Agriculture and Cooperatives
รมช.ประภัตร เปิดงานคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร
31 ก.ค. 2565
253
0
รมช.ประภัตร เปิดงานคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร ในโอกาสมหามงคลวันเฉลิมพระชนมพรรษา 70 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมส่งมอบโค – กระบือ ในโครงการธนาคารโค - กระบือ ตามพระราชดําริ
รมช.ประภัตรเปิดงานคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์
รมช.ประภัตร เปิดงานคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร

        นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงานโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร เฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสที่ทรงเจริญพระชนมพรรษา 70 พรรษา วันที่ 28 กรกฎาคม 2565 ณ ลานอเนกประสงค์เรือนไทยโพธสุธน ตำบลวังน้ำซับ อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี โดยมีนายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี นายอำพันธุ์ เวฬุตันติอธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ นายครองศักดิ์ สงรักษา รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร ศรัญญู พูลลาภ รองอธิบดีกรมหม่อนไหม พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนประชาชนเข้าร่วม ว่า โครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ ฯ เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่สำคัญ นับเป็นการปฏิบัติงานเชิงรุกที่ทำให้เกษตรกรในพื้นที่เป้าหมายที่มีปัญหาด้านการเกษตร ได้รับบริการทางการเกษตรอย่างทั่วถึงและรวดเร็ว เนื่องในโอกาสมหามงคลวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมส่งเสริมการเกษตรจึงกำหนดจัดงานโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร เฉลิมพระเกียรติขึ้นทั่วประเทศ เพื่อเป็นการแสดงความจงรักภักดี สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ได้ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการ และเพื่อเทิดพระเกียรติในวโรกาสดังกล่าว

        สำหรับการให้บริการคลินิกเกษตรของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประกอบด้วยคลินิกดิน โดยกรมพัฒนาที่ดิน คลินิกพืช โดยกรมวิชาการเกษตร คลินิกปศุสัตว์ โดยกรมปศุสัตว์ คลินิกประมง โดยกรมประมง คลินิกข้าว โดยกรมการข้าว คลินิกชลประทาน โดยกรมชลประทาน คลินิกสหกรณ์ โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์ คลินิกบัญชี โดยกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ คลินิกกฎหมาย โดยสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม คลินิกหม่อนไหม โดยกรมหม่อนไหม คลินิกส่งเสริมการเกษตร โดยกรมส่งเสริมการเกษตร รวมไปถึงคลินิกอื่น ๆ ที่มีหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในพื้นที่ร่วมให้บริการ การจัดแสดงและจำหน่ายผลผลิต ผลิตภัณฑ์ ของวิสาหกิจชุมชน Young Smart Farmer ของจังหวัดสุพรรณบุรี โดยมีเกษตรกรมาร่วมงานและเข้ารับบริการคลินิกเกษตรกว่า 500 คน

        ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ขอพระราชานุญาตจัดทำโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ กราบบังคมทูลถวายสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมารเนื่องในโอกาสอันเป็นมิ่งมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งทรงดำรงพระราชอิสริยยศ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงมีพระชนมพรรษา 50 พรรษา วันที่ 28 กรกฎาคม 2545 และทรงรับโครงการไว้ในพระราชานุเคราะห์ ทรงพระราชทานพระราชานุญาตอัญเชิญพระนามาภิไธยย่อไว้ในเครื่องหมายตราสัญลักษณ์โครงการ โดยเริ่มเปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2545 ณ ตำบลบ้านหลวง อำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี และได้ดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน มาเป็นเวลา 20 ปีแล้ว เพื่อให้บริการแก่เกษตรกรในพื้นที่เป้าหมายที่มีปัญหา ให้ได้รับบริการทางการเกษตรได้อย่างรวดเร็ว ทั่วถึง ทันเหตุการณ์ และสอดคล้องกับความต้องการของเกษตรกร ซึ่งมีการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานวิชาการ หน่วยงานส่งเสริม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมพัฒนาฟื้นฟูเกษตรกรให้สามารถทำการเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยั่งยืนในอาชีพ

        นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการนำโค ในโครงการธนาคารโค – กระบือ เพื่อเกษตรกร ตามพระราชดำริ มามอบให้กับเกษตรกรจังหวัดสุพรรณบุรี จำนวน 108 ตัว ซึ่งโครงการดังกล่าวฯ เกิดขึ้นจากพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงพระราชทานมอบโค ให้แก่เกษตรกร เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ยากจน ให้มีโคเป็นของตนเอง และขยายผลให้กับเกษตรกรข้างเคียงเป็นปัจจัยในการประกอบอาชีพเกษตรกรรม   เพิ่มผลผลิตทางการเกษตร ทำให้เกษตรกรมีรายได้และมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ได้มูลโคเป็นปุ๋ยคอก ได้โคเป็นทรัพย์สินของตนเอง เป็นการเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย รวมถึงเป็นการสนับสนุนให้เกษตรกรมีส่วนร่วมในการรวมกลุ่ม สร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน

Loading...
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ตกลง