นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวในโอกาสเป็นประธานพิธีอ่านสารแสดงความยินดีเนื่องในโอกาสวันสถาปนากรมวิชาการเกษตร ครบรอบ 52 ปี โดยมี นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายอภัย สุทธิวสังข์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายนวนิตย์ พลเคน รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เข้าร่วม ณ ห้องประชุมใหญ่ อาคารปฏิบัติการตรวจสอบรับรองคุณภาพสินค้าเกษตรเพื่อการส่งออก กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร กรมวิชาการเกษตร ว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมวิชาการเกษตร มุ่งขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลด้านการเกษตรสู่ความสำเร็จสานต่อนโยบายเดิม 9 ด้าน เกษตรกรต้องอยู่ดี สินค้าเกษตรมูลค่าสูง ทรัพยากรเกษตรยั่งยืน เพื่อสร้างรายได้ โอกาส และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้เกษตรกรไทย สอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” โดยมีเป้าหมายให้เกษตรกรมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สร้างรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืนให้แก่ภาคการเกษตรไทย
สำหรับการดำเนินงานในงบประมาณประจำปี 2568 กรมวิชาการเกษตรในฐานะหน่วยงานที่ทำหน้าที่ค้นคว้าวิจัย พัฒนาปรับปรุงพันธุ์พืช เครื่องจักรกลการเกษตร และเทคโนโลยีการเกษตรด้านต่าง ๆ เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตทั้งลดต้นทุน และเพิ่มผลผลิตให้เกษตรกรยกระดับมาตรฐานการผลิตพืชให้มีคุณภาพและความปลอดภัย พร้อมทั้งเพิ่มโอกาสในการแข่งขันและสร้างความเชื่อมั่นให้สินค้าเกษตรไทยเป็นที่ยอมรับในตลาดโลก อีกทั้งยังมีการปราบปรามสินค้าเกษตรเถื่อนปกป้องผลประโยชน์ให้เกษตรกร รวมถึง ดำเนินการพัฒนาระบบขั้นตอนการดำเนินงานเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้รับบริการด้านการรับรองสุขอนามัยพืชในการส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศตามเงื่อนไขการตรวจสอบโรคแมลง และศัตรูพืชของประเทศสู่มาตรฐานสากล อีกด้วย
นอกจากนี้ กรมวิชาการเกษตรยังมีการพัฒนางานวิจัย นวัตกรรม และเทคโนโลยี โดยเฉพาะในปัจจุบันเป็นยุคที่มีความท้าทาย เช่น Climate Change ภัยพิบัติต่าง ๆ การระบาดของโรค แมลงศัตรูพืชใหม่ ความมั่นคงทางอาหาร ความต้องการอาหารสุขภาพในอนาคต และการกีดกันทางการค้าระหว่างประเทศ ในรูปแบบอื่น ๆ โดยเตรียมความพร้อมเพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้น โดยการนำผลวิจัยนวัตกรรม และเทคโนโลยี มาช่วยในการสร้างรายได้ สร้างโอกาส และสร้างคุณภาพชีวิต ให้กับเกษตรกร โดยเน้นการบริหารจัดการภาคการเกษตรที่ครบถ้วนทุกด้าน ตั้งแต่ ดิน น้ำ นวัตกรรมเทคโนโลยี การพัฒนาพันธุ์พืช ตลอดจนการใช้สารชีวภัณฑ์ลดการใช้สารเคมี เพื่อยกระดับสินค้าเกษตรปลอดภัยมูลค่าสูง ซึ่งเป็นอีกนโยบายที่ต้องการให้ช่วยในการขับเคลื่อน โดยขอให้มีงานวิจัยที่มีการต่อยอด โครงการ 1 ท้องถิ่น 1 สินค้าเกษตรปลอดภัยมูลค่าสูง (76 จังหวัดสินค้าเกษตรปลอดภัยมูลค่าสูง) รวมถึงการส่งเสริมและพัฒนาสินค้าเกษตรอัตลักษณ์ในพื้นที่ เพื่อสร้างอาชีพและเพิ่มรายได้ ให้กับเกษตรกร 3 เท่า ใน 4 ปี
ในโอกาสนี้ รัฐมนตรีช่วยฯ อัครา ได้กล่าวแสดงความยินดีในโอกาสที่กรมวิชาการเกษตร ได้รับรางวัลเลิศรัฐ ประจำปี 2567 จากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) จำนวน 4 รางวัล โดยรางวัลเลิศรัฐ เป็นรางวัลที่ทรงเกียรติที่มอบให้แก่หน่วยงานของรัฐ ที่มีผลการพัฒนาคุณภาพการให้บริการ เพื่อประชาชนได้รับบริการที่สะดวก รวดเร็ว โปร่งใส เป็นธรรมและเป็นที่พึงพอใจ