1. เปลี่ยนการแสดงผล :
    2. C
    3. C
    4. C
    5. C
    6. ตัวช่วยการเข้าถึงเว็บไซต์
    7. แผนผังเว็บไซต์
    8. EN
    9. TH
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
Ministry of Agriculture and Cooperatives
ตราสัญลักษณ์ 133 ปี กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กรมหม่อนไหมเดินหน้า “ธนาคารปัจจัยการผลิตด้านหม่อนไหม” 94 แห่ง ครอบคลุม 33 จังหวัด ยกระดับการเข้าถึงวัตถุดิบ–หนุนเศรษฐกิจฐานราก ตามแนวทาง BCG
22 ต.ค. 2568
72
0
กรมหม่อนไหมเดินหน้า
กรมหม่อนไหมเดินหน้า “ธนาคารปัจจัยการผลิตด้านหม่อนไหม” 94 แห่ง ครอบคลุม 33 จังหวัด ยกระดับการเข้าถึงวัตถุดิบ–หนุนเศรษฐกิจฐานราก ตามแนวทาง BCG

          กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมหม่อนไหม ขับเคลื่อนโครงการ ธนาคารปัจจัยการผลิตด้านหม่อนไหม ภายใต้งบกลางปีงบประมาณ 2568 ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2568 ภายใต้วงเงิน 13.84 ล้านบาท เพื่อสร้างกลไกหมุนเวียนเส้นไหมคุณภาพในระดับชุมชน ลดความเสี่ยงจากการขาดแคลนวัตถุดิบ ลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกร-กลุ่มทอผ้า และยกระดับรายได้เกษตรกรอย่างต่อเนื่องในทุกภูมิภาค สอดคล้องกับแนวทาง BCG ที่มุ่งใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและยั่งยืน โดยเร่งดำเนินการตามกรอบงานเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อประชาชนฐานรากภายในปีนี้

          ปีงบประมาณ 2568 กรมหม่อนไหมจัดตั้งธนาคารฯ รวม 94 แห่ง ครอบคลุม 33 จังหวัด โดยมีศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ 23 ศูนย์ ขับเคลื่อนในพื้นที่ ทำหน้าที่เป็นแหล่ง สำรอง–ให้ยืม–แลกเปลี่ยน เส้นไหมคุณภาพในชุมชนอย่างเป็นระบบ ผ่านการบริหารจัดการในรูปแบบธนาคาร เพื่อให้กลุ่มทอผ้ามีวัตถุดิบที่มีคุณภาพและสามารถผลิตได้สม่ำเสมอตลอดทั้งปี ทั้งนี้ โครงการกำหนดรูปแบบการสนับสนุนตาม “ระดับธนาคาร” โดยกำหนดเป็น 4 ระดับ แต่ละระดับสอดคล้องกับจำนวนสมาชิก เพื่อจัดหาเส้นไหมคุณภาพเข้าสู่ระบบหมุนเวียนในพื้นที่อย่างทั่วถึง

          จากการเดินหน้าขับเคลื่อนโครงการจนเกิดผลสัมฤทธิ์กับเกษตรกรในระยะแรกโดยตรงจากการสนับสนุนเส้นไหมคุณภาพรวม 4,653 กิโลกรัม (เส้นไหมรังสีขาว 3,425 กก. และเส้นไหมรังสีเหลือง 1,228 กก.) เพื่อเป็นวัตถุดิบป้อนสู่กระบวนการผลิตผ้าไหม ประมาณ 23,265 เมตร สร้างรายได้แก่เกษตรกร สูงถึง 23.265 ล้านบาท คาดว่าครัวเรือนสมาชิกมีรายได้เพิ่มเฉลี่ย รายละ 5,000–10,000 บาท/เดือน และหากดำเนินการต่อเนื่องตามแผน จะสร้างมูลค่าเศรษฐกิจ ไม่น้อยกว่า 103.8 ล้านบาทภายใน 3 ปี

          จากผลสัมฤทธิ์ในระยะแรกของโครงการฯ แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จในการเป็นกลไกที่เชื่อมเส้นไหมคุณภาพกับกำลังผลิตของเกษตรกร-กลุ่มทอผ้าอย่างเป็นระบบ ช่วยให้กลุ่มทอผ้าสามารถวางแผนการผลิต
ได้สม่ำเสมอ ลดความเสี่ยงและต้นทุนช่วงวัตถุดิบขาดแคลน พร้อมยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของผ้าไหมไทย ทั้งนี้กรมหม่อนไหมจะเร่งติดตามผล ควบคู่กับการมองภาพเชื่อมโยงตลาดและยกระดับมาตรฐานอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ไหมไทยเป็นพลังสำคัญในการสร้างรายได้ที่มั่นคงแก่เกษตรกรและขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชนอย่างยั่งยืน

Loading...
ตกลง