กรมชลประทาน เปิดเผยถึงสถานการณ์ว่า ปัจจุบัน (เมื่อวันที่ 26 พ.ย.68) อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และกลางทั่วประเทศมีปริมาณน้ำรวมกันทั้งสิ้น 69,735 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 91 ของความจุอ่างฯ รวมกัน เฉพาะ4 เขื่อนหลักลุ่มเจ้าพระยา (เขื่อนภูมิพล,เขื่อนสิริกิติ์,เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน,เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำร่วมกันทั้งสิ้น 24,596 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 99 ของความจุอ่างฯ รวมกัน
ด้านสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ปัจจุบันปริมาณน้ำทางตอนบนลดลงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเขื่อนเจ้าพระยา ได้ปรับลดการระบายน้ำลงเหลือในอัตรา 2,137 ลบ.ม.ต่อวินาที พร้อมเร่งระบายน้ำในพื้นที่ตอนล่างผ่านประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ให้สอดคล้องกับการขึ้นลงของน้ำทะเล ร่วมกับใช้สถานีสูบน้ำที่ตั้งอยู่บริเวณคลองชายทะเล เร่งระบายน้ำออกทะเลอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด
สำหรับสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ จากอิทธิพลของร่องมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ และหย่อมความกดอากาศต่ำที่พาดผ่านอ่าวไทยภาคใต้ตอนล่าง ทำให้หลายพื้นที่ประสบปัญหาน้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และน้ำท่วมขัง นั้นกรมชลประทาน ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งเข้าไปช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ ด้วยการนำรถบรรทุกขนย้ายสิ่งและอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยง รวมถึงเร่งระบายน้ำออกสู่ทะเล พร้อมเฝ้าระวังและระดมเครื่องจักร เครื่องมือ เข้าไปช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน อย่างต่อเนื่อง ตามข้อสั่งการของร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์