กระทรวงเกษตรฯ จัดฝึกอบรมหลักสูตร นักบริหารการพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ ระดับกลาง รุ่นที่ 83 – 84 เพื่อพัฒนาศักยภาพและเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจและเทคนิคด้านการบริหารงาน รวมทั้งเสริมสร้างคุณลักษณะการเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง

          นายพีรพันธ์ คอทอง ผู้ช่วยปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานพิธีเปิดการฝึกอบรมหลักสูตร นักบริหารการพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ ระดับกลาง รุ่นที่ 83 ณ โรงแรมมารวยการ์เด้นส์ ว่า ปัจจุบันสังคมมีการเปลี่ยนแปลง ผู้บริหารในทุกภาคส่วนและทุกองค์กรจะต้องเป็นผู้นำในการปรับตัวขององค์กร เพื่อสร้างความคุ้นเคยจะส่งผลต่อการปฏิบัติราชการ ซึ่งภาคราชการจำเป็นต้องดำเนินการอย่างมีเป้าหมายและแผนงานที่ชัดเจน และพัฒนาเป็นผู้ที่สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยคำนึงถึงประโยชน์ในการบริหาร การปฏิบัติงานและให้ความสำคัญกับการกำหนดทิศทางการพัฒนาสู่การเปลี่ยนแปลงประเทศ นำไปสู่ความมั่นคงที่ยั่งยืน ดังนั้นจึงจัดให้มีการฝึกอบรมหลักสูตร นักบริหารการพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ ระดับกลาง รุ่นที่ 83 ขึ้น ระหว่างเดือนมกราคม – มีนาคม 2561 วัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมพัฒนาและเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในหลักการและเทคนิคด้านการบริหารการพัฒนาแนวคิดและวิสัยทัศน์ เพิ่มทักษะการสร้างแรงจูงใจและพัฒนาประสิทธิภาพของทีมงานและองค์กรได้ เข้าใจในกระบวนการสร้างเครือข่ายและระบบพันธมิตร และมีพฤติกรรมที่สามารถสะท้อนคุณภาพที่เป็นแบบอย่างที่ดีแก่ผู้ปฏิบัติงาน รวมทั้งสามารถถ่ายทอดนโยบายจากระดับสูงไปสู่ระดับปฏิบัติการในหน่วยงานที่รับผิดชอบได้อย่างถูกต้อง พร้อมกับบริหารการเปลี่ยนแปลงบริหารงานได้อย่างมืออาชีพ เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาตนเอง และของหน่วยงานในการพัฒนาคุณภาพของบุคลากรอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีผู้เข้าร่วมฝึกอบรมประกอบด้วย ข้าราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตำแหน่งประเภทวิชาการระดับชำนาญการ ไม่น้อยกว่า 4 ปี พนักงานรัฐวิสาหกิจที่ดำรงตำแหน่งระดับ 7 หรือเทียบเท่า รวม 120 คน

          “การฝึกอบรมหลักสูตร นักบริหารการพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ ระดับกลาง มีเป้าหมายหลักเพื่อมุ่งเน้นการพัฒนาให้มีสะภาวะผู้นำที่มีความรู้ ความสามารถ และทักษะในการบริหารอย่างถูกต้อง เหมาะสม สำหรับการก้าวไปสู่ผู้บริหารในระดับนโยบาย สามารถขับเคลื่อนนโยบาย ยุทธศาสตร์ สร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นในหน่วยงาน ยกระดับองค์กรเพื่อให้การบริหารราชการอย่างมีประสิทธิภาพ และนำประเทศไปสู่ความก้าวหน้าระดับสากล ทั้งในปัจจุบันและอนาคต โดยการดำเนินการจัดฝึกอบรมดังกล่าวผู้เข้ารับการฝึกอบรมได้เรียนรู้และพัฒนาตนเอง และมีส่วนร่วมในการพัฒนาผู้อื่น ตามบทบาทหน้าที่ทางการบริหารและการมีภาวะผู้นำในด้านต่าง ๆ” นายพีรพันธ์ กล่าว