1. เปลี่ยนการแสดงผล :
    2. C
    3. C
    4. C
    5. C
    6. ตัวช่วยการเข้าถึงเว็บไซต์
    7. แผนผังเว็บไซต์
    8. EN
    9. TH
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
Ministry of Agriculture and Cooperatives
รัฐมนตรีเกษตรฯ สั่งปลัดกระทรวงฯ และรักษาการผู้ว่าฯ ก.ย.ท. ตรวจสอบการฮั้วโครงการทำถนนยางพารา
21 มิ.ย. 2562
1,303
0
การฮั้วโครงการทำถนนยางพารา

รัฐมนตรีเกษตรฯ สั่งปลัดกระทรวงฯ และรักษาการผู้ว่าฯ ก.ย.ท. ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีมีผู้ร้องเรียนให้ตรวจสอบการฮั้วโครงการทำถนนยางพารา

     นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงกรณีที่มีผู้ประกอบการยางพาราเข้าร้องเรียนต่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านผู้อำนวยการศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล (สายด่วน 1111) โดยกล่าวหาว่า พบข้อพิรุธและสงสัยในข้อมูลที่ประกาศรายชื่อทางเว็บไซต์ของการยางแห่งประเทศไทย (ก.ย.ท.) ซึ่งปรากฏชื่อบริษัทเอกชน 3 รายประกาศอยู่ในเว็บไซต์ของ ก.ย.ท. โดยแจ้งว่า เป็นบริษัทที่มีน้ำยางพาราผสมสารเพิ่มถูกต้องตามหลักเกณฑ์ทุกประการ และหากเกษตรกรหรือผู้ประกอบการรายใดประสงค์จะเข้าประกวดราคาทำถนนผสมยางพาราในหน่วยงานของรัฐนั้น จะต้องซื้อน้ำยางพาราผสมสารเพิ่มจาก 3 บริษัทนี้เท่านั้น ตามราคาที่กำหนดหรือตกลงกัน ซึ่งกลุ่มผู้ร้องเรียนกล่าวหาว่าเป็นการซื้อน้ำยางพาราผสมสารเพิ่มในราคาสูงมากและผูกขาด นั้น

  “สิ่งสำคัญที่ต้องเข้าใจประการแรกคือ ก.ย.ท. เป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงเกษตรฯ มีภารกิจ คือ ดูแลเกษตรกรชาวสวนยางในการปลูก การพัฒนาคุณภาพผลผลิต การหาช่องทางให้เกษตรกรจำหน่ายผลผลิตยางพารา ตลอดจนส่งเสริมการแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าผลผลิต ดังนั้น การยางแห่งประเทศไทยจึงไม่ใช่หน่วยงานที่มีอำนาจอนุมัติให้มีการจัดซื้อหรือจัดจ้างเอกชนในการทำถนนหรือก่อสร้างถนนแต่อย่างใด” นายกฤษฎา กล่าว เมื่อปี 2560 - 2561 ราคายางพาราตกต่ำทำให้เกษตรกรชาวสวนยางเดือดร้อนมีรายได้ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ รัฐบาลได้มีนโยบายเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางที่ประสบปัญหาราคายางตกต่ำ โดยได้กำหนดแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรหลายประการ  และหนึ่งแนวทางสำคัญในการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยาง  คือ  โครงการใช้ยางพาราในภาครัฐ  เพื่อยกระดับราคายางพารา โดย  ครม.  ได้เห็นชอบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) นำน้ำยางพาราไปผสมผงปูนซีเมนต์ทำถนนแทนการทำถนนด้วยดินลูกรัง เรียกว่า “ถนนดินซีเมนต์ปรับปรุงคุณภาพด้วยยางธรรมชาติ” (ถนนพาราซอยซีเมนต์) ใช้แทนถนนลูกรังในชนบททั่วประเทศจำนวน 75,032 หมู่บ้าน หมู่บ้านละ 1 กิโลเมตร รวมระยะทาง 75,032 กิโลเมตร ต่อมาได้เพิ่มความยาวถนนในโครงการฯ เป็น 3 แสนกิโลเมตร โดยทยอยทำปีละ 50,000 กิโลเมตร ซึ่งผลจากโครงการดังกล่าว ทำให้ราคายางพาราในปี 2562 ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดวานนี้ (วันที่ 20 มิถุนายน 62) ราคาน้ำยางสดปรับมาถึง 52 บาทต่อกิโลกรัม ส่วนราคายางแผ่นรมควันเริ่มแตะกิโลกรัมละ 60 บาท

     เนื่องจากการก่อสร้างถนนยางพาราซอยซีเมนต์ ยังไม่มีราคากลางตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 กระทรวงการคลังโดยกรมบัญชีกลางจึงได้ออกประกาศหลักเกณฑ์และวิธีการกำหนดราคากลางงานก่อสร้าง ฉบับที่ 2 และฉบับที่ 4 เกี่ยวกับการก่อสร้างถนนพาราซอยซีเมนต์ เพื่อนำมาใช้ในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานภาครัฐ และกระทรวงคมนาคมโดยกรมทางหลวงชนบท ได้ออกแบบมาตรฐานสำหรับการก่อสร้างถนนพาราซอยซีเมนต์ ทั้งนี้กระทรวงคมนาคมขอให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ออกประกาศประกาศ เรื่อง ข้อแนะนำการก่อสร้างถนนดินซีเมนต์ปรับปรุงคุณภาพด้วยยางธรรมชาติสำหรับงานท้องถิ่น เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2561 เพื่อเป็นแนวทางให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำไปใช้ในการจัดซื้อจัดจ้างการทำถนนพาราซอยซีเมนต์ตามโครงการฯ และการยางแห่งประเทศไทยได้จัดประชุมชี้แจงแนวทางการดำเนินงานโครงการฯ ในวันที่ 11 มกราคม 2562 ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ พร้อมทั้งเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมบัญชีกลาง สตง. ปปช. กระทรวงคมนาคม เป็นต้น เพื่อให้ข้อคิดเห็นต่อโครงการฯ ซึ่งจากการประชุมได้มีข้อคิดเห็นจากผู้แทนกระทรวงการคลังว่า ควรมีการรับรองคุณภาพมาตรฐานวัสดุที่ใช้ในการทำถนนพาราซอยซีเมนต์ ซึ่งได้แก่ น้ำยางผสมสารผสมเพิ่มและสารผสมเพิ่ม เนื่องจากเป็นวัสดุชนิดใหม่และมีผลโดยตรงต่อมาตรฐานหรือข้อกำหนดของถนนชนิดนี้

     กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงได้มีคำสั่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ 347/2562 เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2562 แต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณารับรองมาตรฐานวัสดุน้ำยางพาราผสมสารผสมเพิ่มและสารผสมเพิ่ม โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นคณะกรรมการ ได้แก่ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน ผู้แทนกรมทางหลวง ผู้แทนกรมทางหลวงชนบท ผู้แทนกรมชลประทาน ผู้แทนสำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม ผู้แทนกรมวิทยาศาสตร์บริการ ผู้แทนกองบัญชาการกองทัพไทย ผู้แทนกองทัพบก และผู้แทนการยางแห่งประเทศไทย เป็นกรรมการ มีอำนาจหน้าที่พิจารณารับรองมาตรฐานคุณภาพ ตรวจสอบคุณภาพ และการควบคุมคุณภาพน้ำยางผสมสารผสมเพิ่มและสารผสมเพิ่ม สำหรับงานก่อสร้างถนนดินซีเมนต์ฯ พร้อมทั้งได้ประกาศคู่มือการรับรองคุณภาพของน้ำยางผสมสารผสมเพิ่มและสารผสมเพิ่ม ซึ่งในคู่มือดังกล่าวประกอบด้วยขั้นตอนและหลักเกณฑ์ในการขอรับรองคุณภาพของน้ำยางผสมสารผสมเพิ่มและสารผสมเพิ่ม

     สำหรับขั้นตอนในการขอรับรองมาตรฐานฯ มีดังนี้

- ผู้ประกอบการยื่นขอการรับรองพร้อมหลักฐานตามคู่มือฯกำหนด พร้อมนัดวันที่ให้คณะกรรมการ (ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่จากกรมทางหลวงและการยางฯ) เข้าตรวจและเก็บตัวอย่างทดสอบ

- เจ้าหน้าที่ตรวจกระบวนการผลิตและนำตัวอย่างส่งวิเคราะห์ผลสมบัติทางยางและสมบัติทางวิศวกรรม ตามเกณฑ์กำหนดในคู่มือฯ โดยการยางแห่งประเทศไทยรับผิดชอบในการทดสอบสมบัติทางยางและกรมทางหลวงรับผิดชอบในการทดสอบสมบัติทางวิศวกรรม

- นำเสนอผลให้คณะกรรมการรับรองฯ เป็นผู้พิจารณาเพื่อรับรองมาตรฐานวัสดุน้ำยางพาราผสม สารผสมเพิ่มและสารผสมเพิ่มนั้น

     จะเห็นได้ว่าผู้ประกอบการที่ผลิตน้ำยางผสมสารผสมเพิ่มไม่ใช่ผู้รับจ้างในการทำถนน เป็นเพียงผู้จำหน่ายวัสดุชนิดหนึ่งประกอบการทำถนนเท่านั้น ผู้รับจ้างมีสิทธิ์ที่จะเลือกซื้อวัสดุที่ได้มาตรฐานจากบริษัทใดก็ได้ คณะกรรมการฯ ได้เปิดโอกาสที่จะทดสอบและรับรองมาตรฐานน้ำยางผสมสารผสมเพิ่มให้ผู้ประกอบการที่สนใจผลิตและดำเนินการตามขั้นตอนตลอดเวลา โดยได้มีผู้ประกอบการที่สนใจเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

     ปัจจุบันมีผู้มายื่นคำขอรับรอง 10 ราย โดยในช่วงแรกหลังจากประกาศ มีผู้มายื่นขอการรับรอง 6 รายและนัดให้เข้าตรวจและเก็บตัวอย่าง 5 ราย ซึ่งจากผลการทดสอบ ปรากฏว่ามีผู้ผ่านการรับรองจำนวน 3 ราย ไม่ผ่านการรับรอง 2 ราย ซึ่งคณะกรรมการได้แจ้งผลให้ผู้ประกอบการที่ไม่ผ่านการรับรองทราบและให้ปรับปรุงน้ำยางผสมสารผสมเพิ่มเพื่อทดสอบใหม่ โดยผู้ประกอบการรายใด เห็นว่า การดำเนินการในขั้นตอนใดไม่ถูกต้องก็สามารถยื่นอุทธรณ์มาที่คณะกรรมการเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงเพิ่มเติมได้ ซึ่งถ้าเห็นว่าว่ายังไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็สามารถนำคำร้องไปฟ้องศาลปกครองได้ต่อไป นอกจากนี้ ในปัจจุบันมีผู้ประกอบการมายื่นขอการรับรองเพิ่มเติมอีก 4 ราย โดยมี 2 รายที่ได้เข้าตรวจกระบวนการผลิตและเก็บตัวอย่างมาส่งทดสอบแล้วอยู่ระหว่างรอผลทดสอบ ส่วนอีก 2 รายนัดเข้าตรวจและเก็บตัวอย่างในวันที่ 20 และ 30 มิ.ย. 62 นี้

     การยางแห่งประเทศไทยพร้อมทั้งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขอยืนยันว่าการดำเนินการตามขั้นตอนดังกล่าวข้างต้น นั้น เป็นการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ที่กฎหมายกำหนดไว้และมีส่วนราชการหน่วยต่าง ๆ มาร่วมดำเนินการในรูปคณะกรรมการ หากผู้ประกอบการรายใดหรือประชาชนเห็นว่าการดำเนินการในขั้นตอนใดมีการกระทำที่ทุจริตหรือเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ก็สามารถแจ้งมาที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์โดยตรงได้ หรือจะใช้สิทธิดำเนินการตามกฎหมายในกระบวนการยุติธรรมอีกทางหนึ่งก็สามารถดำเนินการได้.

 

 

Loading...
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ตกลง