นายสมพร ศรีเมือง รองผู้อำนวยการทำการแทนผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) กล่าวว่า เพื่อเป็นการขยายฐานกลุ่มลูกค้าผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์คให้กว้างขวางขึ้น อ.ส.ค. มีแผนเร่งส่งเสริมเพื่อรักษาและขยายฐานตลาดนมพร้อมดื่มทุก
เซกเมนต์เพิ่มขึ้นทั้งตลาดนมพร้อมดื่มกลุ่มเจเนอรัล มิลค์ และโยเกิร์ตพร้อมดื่ม โดยถือฤกษ์ 11เดือน11 วางแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์โยเกิร์ตพร้อมดื่ม ยูเอชที ตราไทย-เดนมาร์ค ขนาดปริมาตรสุทธิ 200 มล. 4 รสชาติ ได้แก่ รสส้ม รสสับปะรด รสเลมอน และรสสตรอเบอร์รี่ พร้อมจัดโปรโมชั่นออนไลน์ เมื่อสั่งซื้อนม รสใดก็ได้ผ่านช่องทางออนไลน์ ผ่านLazada และ Shopee ในราคา 315/ลัง (4โหล) พร้อมจัดส่งฟรีทันทีระหว่างวันที่ 11 - 13 พฤศจิกายน 2564 นี้เท่านั้น โดยปี 2565 อ.ส.ค. วางเป้าครองส่วนแบ่งตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์โยเกิร์ตพร้อมดื่มเพิ่มขึ้นประมาณ 5% และมีแผนขยายสัดส่วนการตลาดนมกลุ่มนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากเห็นเป็นตลาดที่ตอบโจทย์เทรนด์ของผู้บริโภคที่หันมาใส่ใจและรักสุขภาพกันมากขึ้นในปัจจุบัน
นายสมพร กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผลิตภัณฑ์โยเกิร์ตพร้อมดื่ม ยูเอชที ตราไทย-เดนมาร์คทั้ง 4 รสชาติ เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดของ อ.ส.ค. ที่มุ่งวางเป้าหมายทางการตลาดเจาะตลาดกลุ่มคนรุ่นใหม่และวัยทำงานที่ต้องการเครื่องดื่มที่ดื่มแล้วมีความสดชื่นกระฉับกระเฉงในการทำงาน สำหรับ จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ทั้ง 4 รสชาติ คือ เป็นโยเกิร์ตพร้อมดื่มที่ผลิตจากนมโคแท้ 100% ไม่ผสมนมผงทำจากโยเกิร์ตแท้ (real yoghurt) ผ่านกระบวนการหมักจากเชื้อจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้ง่าย มีน้ำตาลแลคโตสน้อยกว่านมโคปกติ 4 เท่า เนื่องจากถูกจุสินทรีย์ย่อยไปในกระบวนการหมัก เด็ก ผู้สูงอายุ สามารถรับประทานได้ มีปริมาณโปรตีน 4 กรัมต่อกล่อง ที่สำคัญคือเป็นแหล่งแคลเซียมตามธรรมชาติในรูปที่ดูดซึมได้ง่ายเหมาะกับการรับประทานเป็นอาหารว่าง เพื่อเพิ่มความสดชื่น มีรสชาติเปรี้ยวหวาน สามารถเก็บได้นานโดยไม่ต้องแช่เย็น แต่ยิ่งแช่เย็นยิ่งอร่อย ยิ่งแช่แข็งกินเป็นไอศกรีมเชอร์เบทใส่เครื่องปั่นก็เป็นเมนูสมูทตี้ผลไม้ได้
ทั้งนี้นายสมพร กล่าวถึงสถานการณ์ตลาดผลิตภัณฑ์นมนมไทย-เดนมาร์คในปีที่ผ่านมาด้วยว่า แม้จะประสบปัญหาการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) แต่ด้วยความเข้มแข็งของแบรนด์ไทย-เดนมาร์คทีมีการปรับกลยุทธ์ทางการตลาดให้สอดคล้องกับสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง และการเป็นผู้นำในการผลิตผลิตภัณฑ์นมโคแท้ 100% ไม่ผสมนมผง ส่งผลให้ยังคงครอบสัดส่วนตลาดโดยรวมเพิ่มขึ้น โดยช่องทางตลาดหลักที่ขยายตัวเติบโตมากที่สุดคือ ตลาดโมเดิร์นเทรด เติบโตประมาณ 35 % ปัจจุบันมีคู่ค้ากว่า 11 ราย เช่น เทสโก้ โลตัส, บิ๊กซี, แม็คโคร, ท็อปซุปเปอร์มาร์เก็ต, แม็กซ์ แวลู และแฟมิลี่ มาร์ท เป็นต้น โดยมีสัดส่วนตลาด 55% ขณะที่สัดส่วนตลาดในธุรกิจค้าปลีกแบบดั้งเดิม