นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ปัจจุบัน (14 ก.ค. 65) อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำรวมกัน 41,248 ล้าน ลบ.ม. (54% ของความจุอ่างฯ รวมกัน) เป็นน้ำใช้การได้ 17,311 ล้าน ลบ.ม. (33% ของความจุอ่างฯรวมกัน) สามารถรับน้ำได้อีก 34,837 ล้าน เฉพาะ 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวมกันทั้งสิ้น 9,610 ล้าน ลบ.ม. (39% ของความจุอ่างฯรวมกัน) ปริมาณน้ำใช้การได้ 2,914 ล้าน ลบ.ม. (16% ของความจุอ่างฯ รวมกัน) สามารถรับน้ำได้อีก 15,261ล้าน ลบ.ม.
อนึ่ง กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่า ในช่วงวันที่ 15 – 17 ก.ค. 65 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยเริ่มมีกำลังอ่อนลง ในขณะที่ร่องมรสุมจะเลื่อนขึ้นไปพาดผ่านบริเวณประเทศเมียนมา ประเทศลาวตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ทำให้ประเทศไทยมีฝนลดลงแต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก
ทั้งนี้ ได้กำชับให้โครงการชลประทานในพื้นที่เสี่ยง รวมทั้งสำนักเครื่องจักรกล ให้เฝ้าระวังและติดตามสภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชม. พร้อมบริหารจัดการน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ที่ควบคุม พิจารณาปรับการระบายน้ำให้เหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์ หมั่นตรวจสอบสิ่งกีดขวางทางน้ำ กำจัดผักตบชวาในทางน้ำชลประทาน รวมทั้งจัดเตรียมเครื่องจักร เครื่องมือ ให้พร้อมเข้าไปให้ความช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที ตลอดจนปฏิบัติตาม 13 มาตรการ รับมือฤดูฝนปี 2565 ตามที่ กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) กำหนดอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ สามารถติดตามสถานการณ์น้ำได้ที่ www.rid.go.th http://swoc.rid.go.th/ หรือhttps://www.facebook.com/Wmsc.Irri และสายด่วนกรมชลประทาน โทร. 1460