1. เปลี่ยนการแสดงผล :
    2. C
    3. C
    4. C
    5. C
    6. ตัวช่วยการเข้าถึงเว็บไซต์
    7. แผนผังเว็บไซต์
    8. EN
    9. TH
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
Ministry of Agriculture and Cooperatives
ตราสัญลักษณ์ 133 ปี กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กรมฝนหลวงฯ ช่วยพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ต่อเนื่อง เน้นย้ำ!! วางแผนปฏิบัติการไม่ให้กระทบพื้นที่เสี่ยงเกิดอุทกภัย และปฏิบัติการเชิงรุกช่วยพื้นที่ขาดแคลนน้ำก่อนหมดฤดูฝนนี้
11 ก.ย. 2568
165
0
กรมฝนหลวงฯช่วยพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ต่อเนื่อง
กรมฝนหลวงฯ ช่วยพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ต่อเนื่อง เน้นย้ำ!! วางแผนปฏิบัติการไม่ให้กระทบพื้นที่เสี่ยงเกิดอุทกภัย และปฏิบัติการเชิงรุกช่วยพื้นที่ขาดแคลนน้ำก่อนหมดฤดูฝนนี้

      วันที่ 11 กันยายน 2568 นายราเชน ศิลปะรายะ อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่า ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าในช่วงวันที่ 10-11 กันยายน 2568 บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกมีฝนตกหนักบางแห่ง เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลาง พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย และในช่วงวันที่ 12 – 16 กันยายน 2568 ภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนจะเริ่มมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนตกหนักมากบริเวณภาคตะวันออก จากสถานการณ์ดังกล่าวได้สั่งการให้หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงวางแผนการทำงานอย่างระมัดระวัง เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้กระทบกับพื้นที่ที่อาจะเสี่ยงเกิดอุทกภัย และพื้นที่การเกษตรที่มีปริมาณน้ำเพียงพอแล้ว

     นายราเชน กล่าวว่า ปัจจุบันยังคงมีพื้นที่การเกษตรที่ต้องการน้ำสำหรับเพาะปลูกในช่วงห้วงสุดท้ายก่อนหมดฤดูฝนปีนี้ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ พื้นที่การเกษตร เขื่อนและอ่างเก็บน้ำของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น อำเภอโพนทราย อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด พื้นที่ส่วนใหญ่ของจังหวัดยโสธร จังหวัดสุรินทร์ จังหวัดมหาสารคาม จังหวัดชัยภูมิ ยังต้องการน้ำสำหรับข้าวและอ้อยในระยะแตกกอ มันสำปะหลังและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในระยะเจริญเติบโต รวมถึงสถานการณ์น้ำของเขื่อนและอ่างเก็บน้ำที่ยังขอรับบริการฝนหลวง เนื่องจากมีปริมาณน้ำใช้การต่ำกว่า 60% (ข้อมูล ณ วันที่ 10 กันยายน 2568) ได้แก่ เขื่อนลำตะคอง (19.81%) เขื่อนลำพระเพลิง (35.03%) เขื่อนมูลบน (39.35%) และเขื่อนลำนางรอง (23.67%) ส่วนพื้นที่ภาคกลางเน้นช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรจังหวัดกาญจนบุรี สุพรรณบุรี อุทัยธานี และเติมน้ำต้นทุนให้เขื่อนทับเสลา (10%) เขื่อนกระเสียว (26%) เขื่อนศรีนครินทร์ (50%) สำหรับพื้นที่ภาคใต้ตอนบน ให้ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรจังหวัดราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ รวมถึงเน้นเติมน้ำต้นทุนให้เขื่อนปราณบุรี (37.39%) ซึ่งขอให้ประชาชนมั่นใจว่ากรมฝนหลวงฯ จะปฏิบัติการฝนหลวงให้ตรงพื้นที่ความต้องการ จะระมัดระวังพื้นที่ที่มีปริมาณน้ำเพียงพอแล้ว
และพื้นที่เสี่ยงเกิดอุทกภัย เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อผลผลิตทางการเกษตร

       อย่างไรก็ตาม ผลการปฏิบัติการฝนหลวงที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่ 23 กุมภาพันธ์ – 9 กันยายน 2568 ปฏิบัติการไปจำนวน 175 วัน 2,185 เที่ยวบิน ปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือ 63 จังหวัด เช่น จังหวัดเชียงใหม่ ตาก พะเยา กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก นครสวรรค์ เพชรบูรณ์ กาญจนบุรี สุพรรณบุรี ขอนแก่น นครพนม สกลนคร อุดรธานี ชัยภูมิ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ระนอง กระบี่ สงขลา โดยมีฝนตกจากการปฏิบัติการฝนหลวง คิดเป็น 96% ปฏิบัติการเติมน้ำต้นทุนให้อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ จำนวน 29 แห่งและอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง ขนาดเล็ก จำนวน 190 แห่ง พื้นที่การเกษตรที่ได้รับประโยชน์จากการปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 144 ล้านไร่ และมีปริมาณฝนสะสมจากการปฏิบัติการฝนหลวงในพื้นที่เขื่อนและอ่างเก็บน้ำ 471.28 ล้านลูกบาศก์เมตร

Loading...
ตกลง