1. เปลี่ยนการแสดงผล :
    2. C
    3. C
    4. C
    5. C
    6. ตัวช่วยการเข้าถึงเว็บไซต์
    7. แผนผังเว็บไซต์
    8. EN
    9. TH
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
Ministry of Agriculture and Cooperatives
ตราสัญลักษณ์ 133 ปี กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
องคมนตรี ติดตามสถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยา
25 ก.ย. 2568
117
0
องคมนตรี ติดตามสถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยา
องคมนตรี ติดตามสถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยา

    เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2568 ณ ห้องประชุมธารทิพย์ 01 อาคาร 99 ปี หม่อมหลวงชูชาติกำภู กรมชลประทาน ถนนสามเสน กรุงเทพฯ นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์น้ำในเขตลุ่มน้ำเจ้าพระยา พร้อมแนวทางการบรรเทาและแก้ไขปัญหาให้กับราษฎรในพื้นที่ประสบอุทกภัย โดยมี นางสุพร ตรีนรินทร์ เลขาธิการคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์  ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายสุริยพล นุชอนงค์ อธิบดีกรมชลประทาน พร้อมด้วยผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท , สิงห์บุรี , อ่างทอง , พระนครศรีอยุธยา , นนทบุรี และปทุมธานี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) กรมการปกครอง กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นต้น เข้าร่วมประชุมเพื่อติดตามสถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยา โดยปัจจุบันมีหลายจังหวัดในพื้นที่ภาคกลางประสบอุทกภัย ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำและริมแม่น้ำสายหลัก

    นายสุริยพล นุชอนงค์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า จากการคาดการณ์สภาพอากาศและประเมินสถานการณ์น้ำร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พบว่า หลายพื้นที่มีแนวโน้มเกิดฝนตกหนักถึงหนักมาก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำ กรมชลประทานได้เร่งพร่องน้ำในอ่างเก็บน้ำ เพื่อรักษาระดับน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ควบคุม ไว้รองรับฝนที่จะตกลงมาเพิ่ม ควบคู่ไปกับการใช้พื้นที่หน่วงน้ำ เพื่อชะลอมวลน้ำจากตอนบนไม่ให้ไหลไปกระทบพื้นที่ลุ่มต่ำด้านท้ายเขื่อน มีการเตรียมความพร้อมด้านเครื่องจักร เครื่องมือ และบุคลากร รวมถึงบูรณาการกับหน่วยงานท้องถิ่นเพื่อรับมือสถานการณ์น้ำหลากอย่างใกล้ชิด

     ด้านสถานการณ์ 2 เขื่อนหลัก เขื่อนภูมิพล จ.ตาก มีปริมาณน้ำเก็บกักรวม 10,799  ล้าน ลบ.ม (80%) ยังสามารถรับน้ำได้อีก 2,663 ล้าน ลบ.ม. ปัจจุบันมีการปรับลดการระบายน้ำเหลือ 5 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน ในส่วนของเขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ มีปริมาณน้ำเก็บกักรวม 8,433 ล้าน ลบ.ม (89%) ยังสามารถรับน้ำได้อีก 1,077 ล้าน ลบ.ม. ปัจจุบันมีการทยอยปรับลดการระบายน้ำเหลือ 10 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน ซึ่งจะช่วยลดปริมาณน้ำที่จะไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ลดผลกระทบพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง

       ในส่วนของสถานการณ์ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ปัจจุบัน (24 ก.ย. 68) เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ยังคงการระบายน้ำที่ 2,200 ลบ.ม.ต่อวินาที ส่งผลให้พื้นที่ริมน้ำและนอกคันกั้นน้ำในเขต จ.พระนครศรีอยุธยา เช่น อ.บางบาล และ อ.เสนา โดยเฉพาะแม่น้ำน้อย คลองโผงเผง และคลองบางบาล มีระดับน้ำสูงกว่าตลิ่งหลายจุด กรมชลประทาน ได้กระจายน้ำเข้าระบบชลประทานทั้งฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตก รวมกว่า 334 ลบ.ม.ต่อวินาที พร้อมประสานจังหวัดและองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เร่งประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนล่วงหน้า และจัดเตรียมเครื่องจักร-เครื่องสูบน้ำเข้าไปให้การช่วยเหลือ รวมถึงแผนเยียวยาเกษตรกรหลังน้ำลด

      สำหรับเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี ปัจจุบันมีการระบายน้ำลงสู่แม่น้ำป่าสัก 550 ลบ.ม.ต่อวินาที พร้อมควบคุมน้ำไหลผ่านเขื่อนพระราม 6 ในอัตรา 533 ลบ.ม.ต่อวินาที ก่อนจะไหลไปบรรจบกับแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณวัดพนัญเชิงจ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งการบริหารจัดการน้ำลุ่มน้ำป่าสัก ตั้งแต่ท้ายเขื่อนป่าสักฯลงมา จะพิจารณาให้สอดคล้องกับสภาวะน้ำทะเลหนุนสูง รวมไปถึงสถานการณ์น้ำจากลุ่มน้ำสาขา เพื่อควบคุมและลดผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มต่ำด้านท้ายให้มากที่สุด

     ทั้งนี้ กรมชลประทาน ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด มีการนำข้อมูลมาวิเคราะห์และวางแผนการบริหารจัดการน้ำ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่ รวมทั้งพิจารณาปรับการระบายน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม พร้อมปฏิบัติตาม 9 มาตรการรับมือฤดูฝนปี 2568 อย่างเคร่งครัด รวมทั้งตรวจสอบอาคารชลประทาน ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน มีการกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงเตรียมพร้อมเครื่องจักร เครื่องมือ อาทิ เครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำ รถบรรทุกน้ำ และเครื่องจักรอื่น ๆ รวมทั้งสิ้นกว่า 6,700 หน่วย สำหรับสนับสนุนและใช้ในการบรรเทาภัยและเร่งระบายน้ำในพื้นที่ประสบอุทกภัย ยืนยันมีความพร้อมปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันและลดผลกระทบจากน้ำท่วม สร้างความมั่นใจให้กับประชาชนให้มากที่สุด

     ในการนี้ องคมนตรี ได้กำชับให้กรมชลประทาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งให้ความช่วยเหลือราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้ราษฎรในพื้นที่เสี่ยงอย่างต่อเนื่อง เตรียมพร้อมด้านเครื่องจักร เครื่องมือ และเจ้าหน้าที่ ให้สามารถเข้าไปช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที เมื่อต้องเผชิญเหตุ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับราษฎรให้ได้มากที่สุด

Loading...
ตกลง