ปลัดเกษตรฯ ร่วมพิธีมอบประกาศนียบัตรแก่ผู้ผ่านการฝึกอบรมนักบริหารของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประจำปี 2568
ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานพิธีมอบประกาศนียบัตรแก่ผู้ผ่านการฝึกอบรมนักบริหารของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประจำปี 2568 โดยมี นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าร่วม ณ ห้องมัฆวานรังสรรค์ สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต เขตพญาไท กรุงเทพฯ ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยสถาบันเกษตราธิการได้ดำเนินการจัดฝึกอบรม หลักสูตรนักบริหารของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อพัฒนาสมรรถนะการเป็นผู้นำด้านการบริหารที่สำคัญ ให้แก่ผู้ที่จะก้าวสู่ตำแหน่งผู้บริหารในระดับที่สูงขึ้นและตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มาตรา 72 กำหนดให้ส่วนราชการมีหน้าที่ดำเนินการให้มีการเพิ่มพูนประสิทธิภาพและเสริมสร้างแรงจูงใจแก่ข้าราชการพลเรือนสามัญ เพื่อให้ข้าราชการพลเรือนสามัญมีคุณภาพ คุณธรรม จริยธรรม คุณภาพชีวิต มีขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติราชการให้เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อภารกิจของรัฐฯ
สำหรับปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 สถาบันเกษตราธิการดำเนินการจัดฝึกอบรมให้แก่ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจในสังกัด องค์การมหาชน ในกำกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และบุคลากรภาครัฐจากหน่วยงานภายนอก มีผู้ผ่านการฝึกอบรมจากทุกหน่วยงานในสังกัด และนอกสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งเป็นกลุ่มผู้นำการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ กล่าวคือ หลักสูตรนักบริหารระดับสูง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รุ่นที่ 8 (นบส.กษ.) จำนวน 56 คน หลักสูตรนักบริหารการพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ ระดับสูง (นบส.) รุ่นที่ 89 – 91 จำนวน 330 คน และหลักสูตรนักบริหารการพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ ระดับกลาง (นบก.) รุ่นที่ 113 – 116 จำนวน 479 คน รวมผู้ผ่านการอบรมทั้งสิ้น 865 คน โดยคาดหวังผลจากการฝึกอบรม รวม 4 ประการ ดังนี้
1) ผู้ผ่านการฝึกอบรมมีความรู้ ความเข้าใจนโยบายของรัฐบาลนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และขับเคลื่อนนโยบายสู่บทบาทภารกิจของหน่วยงานได้อย่างชัดเจน
2) ผู้ผ่านการฝึกอบรมมีแนวคิด ทฤษฎี และกลยุทธ์ใหม่ ๆ เพื่อรองรับภารกิจ ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วทั้งในปัจจุบันและอนาคต
3) ผู้ผ่านการฝึกอบรมมีภาวะผู้นำ หลักการบริหาร การวางแผนและพร้อมที่จะบริหารงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
และ 4) ผู้ผ่านการฝึกอบรมได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกันอันจะเป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติงานของตนเอง และได้ใช้เครือข่ายช่วยบูรณาการงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในอนาคตต่อไป