1. เปลี่ยนการแสดงผล :
    2. C
    3. C
    4. C
    5. C
    6. ตัวช่วยการเข้าถึงเว็บไซต์
    7. แผนผังเว็บไซต์
    8. EN
    9. TH
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
Ministry of Agriculture and Cooperatives
ตราสัญลักษณ์ 133 ปี กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
“รมว.ธรรมนัส” พร้อม 2 รัฐมนตรีช่วยเกษตรฯ ลุย อุบลฯ ตรวจน้ำท่วม สั่ง กรมชลฯ เร่งระบายน้ำ มั่นใจ 15 วันน้ำลด ดันสร้าง “อุโมงค์ผันน้ำอ้อมแก่งสะพือ” เข้างบปี 70
7 ต.ค. 2568
263
0
“รมว.ธรรมนัส”พร้อม2รัฐมนตรีช่วยเกษตรฯ
“รมว.ธรรมนัส” พร้อม 2 รัฐมนตรีช่วยเกษตรฯ ลุย อุบลฯ ตรวจน้ำท่วม สั่ง กรมชลฯ เร่งระบายน้ำ มั่นใจ 15 วันน้ำลด ดันสร้าง “อุโมงค์ผันน้ำอ้อมแก่งสะพือ” เข้างบปี 70

        ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ณ สถานีวัดระดับน้ำ (M7) หรือสถานีวัดน้ำแม่น้ำมูล บริเวณเชิงสะพานเสรีประชาธิปไตย อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานีสำคัญที่ใช้สำหรับติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี

        รมว.ธรรมนัส กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้ตน ลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นพื้นที่ปลายน้ำ ก่อนที่น้ำจากแม่น้ำมูลและแม่น้ำชีจะไหลลงสู่แม่น้ำโขง เพื่อดูสภาพจริงและสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนโดยเร็ว และนายกรัฐมนตรียังได้ลงนามแต่งตั้งให้ตนเป็นประธานคณะกรรมการชุดพิเศษในการแก้ไขปัญหาเหตุจากภัยธรรมชาติ ไม่ว่าจะอุทกภัย วาตภัย หรือเหตุแผ่นดินไหว ซึ่งจะทำให้สามารถขับเคลื่อนและดูแลเฝ้าติดตามช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้

        สำหรับการลงพื้นที่ในวันนี้ได้สั่งการให้กรมชลประทานเร่งดำเนินมาตรการระบายน้ำออกจากพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี โดยเฉพาะในเขตอำเภอวารินชำราบ ผ่านการบริหารจัดการประตูน้ำให้มีประสิทธิภาพ เพื่อเร่งระบายน้ำลงสู่แม่น้ำโขงให้ได้รวดเร็วขึ้น โดยภายใน 15 วัน ระดับน้ำในเขตอำเภอเมืองและอำเภอวารินชำราบจะลดลงอย่างต่อเนื่อง สำหรับแผนระยะยาว ได้มอบหมายให้กรมชลประทานประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการขุดเจาะอุโมงค์ผันน้ำอ้อมแก่งสะพือ ซึ่งเป็นแนวคิดที่เคยมีการพูดถึงมาหลายรัฐบาล แต่ยังไม่สามารถดำเนินการได้จริง แต่กรมชลประทานเคยสร้างอุโมงค์ผันน้ำที่จังหวัดชียงใหม่ได้สำเร็จที่มีความลึกและซับซ้อนกว่านี้มาก ทำให้สามารถช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วมได้จริง ดังนั้นจึงมั่นใจว่าโครงการลักษณะเดียวกันนี้จะสามารถทำได้ที่อุบลราชธานีได้เช่นกัน และหากผลการศึกษาความเป็นไปได้ จะผลักดันให้บรรจุไว้ใน แผนงบประมาณปี 2570 ซึ่งจะเริ่มจัดทำภายในเดือนธันวาคมนี้ เพื่อเดินหน้าโครงการในเชิงรูปธรรมโดยเร็วที่สุด

        ร้อยเอก ธรรมนัส กล่าวทิ้งท้ายว่า ในช่วงนี้ได้เดินทางตรวจราชการหลายพื้นที่ที่ประสบภัยน้ำท่วม ทั้งในลุ่มเจ้าพระยา เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี สุโขทัย และล่าสุดที่อุบลราชธานี โดยจะแยกดำเนินการต่อเป็น 2 กรณี คือ พื้นที่ท่วมซ้ำซาก แบบบางระกำโมเดล หรือแนวทางการบริหารจัดการน้ำแบบองค์รวมมาใช้ เช่นเดียวกับกรณีกงไกรลาศโมเดลที่จังหวัดสุโขทัย ซึ่งมีการบริหารพื้นที่ร่วมกันระหว่างภาครัฐและประชาชนเพื่อป้องกันน้ำท่วมระยะยาว และพื้นที่ประสบภัยเฉพาะหน้า ที่ต้องเร่งระบายน้ำ เยียวยา และฟื้นฟูทันที

        “รัฐบาลจะดำเนินการทั้งการแก้ไข ฟื้นฟู และเยียวยา ไปพร้อมกัน โดยนายกรัฐมนตรีได้กำชับให้ทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องบูรณาการการทำงานอย่างใกล้ชิด เพื่อช่วยเหลือประชาชนให้ทันท่วงที ผมในฐานะผู้กำกับดูแลกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานลงพื้นที่ดูแลเกษตรกรอย่างใกล้ชิด เยียวยาโดยเร็ว อย่าปล่อยให้ล่าช้า เพราะพี่น้องเกษตรกรคือหัวใจของประเทศ ขอให้กำลังใจพี่น้องประชาชนและเกษตรกรทุกคน” รองนายกรัฐมนตรี กล่าวทิ้งท้าย

Loading...
ตกลง