คณะกรรมการอาหารนมเพื่อเด็กและเยาวชน สนับสนุนเด็กดื่ม 'นมโรงเรียน' 365 วัน พร้อมเสนอแนวทางแก้ไขปัญหา 'นมค้างสต็อก' ตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจลุย 16 จังหวัด
นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอาหารนมเพื่อเด็ก และเยาวชน ครั้งที่ 6/2568 โดยมี นายอภัย สุทธิสังข์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้บริหารในสังกัดกระทรวงเกษตร และสหกรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ณ ห้องประชุมกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และผ่านการประชุมทางไกล Zoom Meeting ซึ่งที่ประชุมได้รับทราบผลการจัดสรรพื้นที่จำหน่ายนมโรงเรียน ประจำปีการศึกษา 2568 เพิ่มเติม และแนวทางการพิจารณาข้อหารือและการปฏิบัติตามประกาศคณะกรรมการอาหารนมเพื่อเด็กและเยาวชน เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการดำเนินงานโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน ประจำปีการศึกษา 2568 อีกทั้ง ที่ประชุมได้เห็นชอบ ข้อเสนอโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียนครบทุนวันที่ต้องการสนับสนุนนมให้นักเรียน ระดับชั้นก่อนประถมศึกษาจนถึงชั้น ประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 6,053,969 คน ได้ดื่มนมในโครงการฯ เพิ่มจากเดิม 260 วัน เป็น 365 วัน และจัดสรรนม ให้แก่นักเรียนระดับชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1 – 3 ในโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา จำนวน 582,947 คน ให้ได้ดื่มนมทั้ง 365 วัน เช่นกัน ซึ่งการดำเนินการตามแนวทางดังกล่าว จะช่วยให้มีน้ำนมดิบเข้าสู่ระบบการผลิตนมในโครงการฯ ประมาณ 1,393 ตันต่อวัน เพิ่มขึ้นจากเดิม 488 ตันต่อวัน และเป็นการช่วยเสริมสร้างสุขภาพเยาวชน และลดการขาดสารอาหารในวัยเด็ก ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการเพิ่มเติมข้อสังเกตของคณะกรรมการที่ต้องการให้เด็กนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 3 ในส่วนการดูแลของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ได้รับการสนับสนุนในรูปแบบเดียวกัน นำเสนอเรื่องต่อ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อขอความเห็นชอบข้อเสนอโครงการฯ ต่อคณะรัฐมนตรีให้พิจารณาต่อไป
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้เห็นชอบแนวทางแก้ไขปัญหานมค้างสต็อก โดยจัดทำ (ร่าง) ประกาศคณะกรรมการอาหารนม เพื่อเด็กและเยาวชน เรื่อง หลักเกณฑ์โครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน (ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2568) และเห็นชอบ (ร่าง) คำสั่งคณะกรรมการอาหารนมเพื่อเด็กและเยาวชน เรื่อง แต่งตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อตรวจสอบ ผลิตภัณฑ์นมโรงเรียน ชนิด ยู เอช ที (จำนวน 16 จังหวัด) โดยมีปศุสัตว์จังหวัด เป็นประธานคณะทำงาน ซึ่งมีอำนาจและหน้าที่ ติดตามการตรวจสอบโรงงาน หรือสถานประกอบการที่ผลิตนมโรงเรียน ชนิด ยู เอช ที รวมถึงตรวจนับผลิตภัณฑ์และเอกสาร ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตและซื้อขายน้ำนมโคในโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน รวมถึงสุ่มเก็บตัวอย่างผลิตภัณฑ์นมโรงเรียน ชนิด ยู เอช ที ณ โรงงาน หรือสถานประกอบการ นำไปส่งตรวจวิเคราะห์คุณภาพตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้มั่นใจว่าผู้บริโภคจะได้รับสินค้ามีคุณภาพดี ไม่มีนมผงเจือปน ซึ่งฝ่ายเลขานุการจะนำเสนอ (ร่าง) ต่อปลัดกระทรวงเกษตร และสหกรณ์ลงนามต่อไป รวมถึงมอบหมายฝ่ายเลขานุการฯ เสนอเรื่องเพื่อขอความเห็นชอบและอนุมัติงบประมาณ เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหานมกล่องค้างสต็อกต่อร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอต่อคณะรัฐมนตรีให้พิจารณาต่อไป