ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตรวจติดตามสถานการณ์และการบริหารจัดการน้ำในลุ่มน้ำกก ณ เขื่อนเชียงราย ต.รอบเวียง อ.เมือง จ.เชียงราย และเดินทางไปยังที่ว่าการอำเภอเวียงชัย และรับฟังปัญหาความต้องการในพื้นที่ พร้อมมอบสิ่งของและปัจจัยการผลิต เช่น มอบโฉนดเพื่อการเกษตร พันธุ์สัตว์น้ำ น้ำหมักชีวภาพปลาหมอคางดำ รวมทั้งป้ายปัจจัยการผลิตโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าวของเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัย
ร้อยเอก ธรรมนัส กล่าวว่า เขื่อนเชียงรายมีพื้นที่ชลประทาน 58,723 ไร่ ในเขตอำเภอเมืองเชียงราย เวียงชัย และเวียงเชียงรุ้ง ซึ่งกรมชลประทานได้มีการบริหารจัดการน้ำในลุ่มน้ำกก เพื่อบรรเทาอุทกภัยในช่วงฤดูฝน และเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง รวมถึงเป็นแหล่งน้ำต้นทุนให้แก่ระบบชลประทานในพื้นที่ลุ่มน้ำกกตอนล่าง อย่างไรก็ตาม จังหวัดเชียงรายยังประสบปัญหาจากภัยธรรมชาติและปัญหาสิ่งแวดล้อม เช่น น้ำท่วม ดินถล่ม โดยเฉพาะเรื่องสารตกค้างในแม่น้ำกกที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของประชาชน
“สิ่งแรกที่ต้องทำคือการเจรจาให้ได้ข้อยุติชัดเจนกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งจำเป็นต้องมีมาตรฐานที่ชัดเจน ไม่ปล่อยให้มีการระบายสารเคมีลงสู่ลำน้ำสาขา ซึ่งไหลเข้าสู่ประเทศไทย เพราะเรื่องนี้กระทบโดยตรงต่อชีวิตของพี่น้องประชาชน ผมจะนำเรื่องนี้เข้าหารือในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันอังคารนี้ เพื่อให้กระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานความมั่นคงดำเนินการทางการทูตอย่างเป็นระบบ”
ร้อยเอก ธรรมนัส กล่าวอีกว่า ในส่วนกระทรวงเกษตรฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ จึงได้สั่งการให้กรมชลประทานเร่งพิจารณาการสร้างประตูระบายน้ำหรือฝายดักตะกอน บริเวณต้นน้ำก่อนเข้าสู่เขตอำเภอแม่อาย เพื่อกรองและลดการไหลของสารปนเปื้อนก่อนเข้าสู่พื้นที่จังหวัดเชียงราย ขณะเดียวกัน ได้สั่งการให้กรมพัฒนาที่ดิน กรมชลประทาน และกรมประมง ร่วมตรวจสอบคุณภาพทั้งน้ำ ดิน และสัตว์น้ำ ในพื้นที่อย่างละเอียด เพื่อให้ประชาชนมั่นใจว่า ทรัพยากรเหล่านี้ปลอดภัยต่อการบริโภค ตลอดจนได้มอบให้กรมชลประทานหาแหล่งน้ำสำรองสำหรับอุปโภคบริโภคให้ประชาชนเชียงราย เพื่อไม่ต้องใช้น้ำหลักจากแม่น้ำกก แม้จะยังไม่เกินค่ามาตรฐานก็ตาม
“ผมจะตั้งคณะกรรมการระดับจังหวัดขึ้นมาดูแลปัญหานี้โดยเฉพาะ โดยมีตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงผู้นำท้องถิ่นเข้าร่วม เพื่อให้การแก้ไขปัญหาเข้าถึงพื้นที่จริง ผมขอยืนยันว่า จะเร่งแก้ปัญหาให้ดีที่สุด เพราะนี่คือความเดือดร้อนของประชาชนจริง ๆ ซึ่งรัฐบาล และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะไม่เพิกเฉยต่อเรื่องนี้แน่นอน” ร้อยเอก ธรรมนัส กล่าว
นอกจากนี้ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้รับฟังการสะท้อนปัญหาความต้องการของพื้นที่โดยผู้นำท้องที่และผู้นำท้องถิ่นนำเสนอ อาทิ โครงการปรับปรุงฟื้นฟูแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรและพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว โดยการขุดลอกหนองหลวง โครงการพัฒนาฟื้นฟูหนองหลวง โครงการก่อสร้างระบบสูบน้ำผันแม่น้ำกกด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ พร้อมสั่งการให้แต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาและพัฒนาในพื้นที่จังหวัดเชียงราย โดยมอบหมายให้ นายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน เพื่อเร่งดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม และยืนยันว่า จะเดินหน้ายกระดับราคาสินค้าเกษตรให้สูงขึ้น ภายใน 3 เดือน เพื่อแก้ปัญหาในระยะเร่งด่วนให้เกษตรกรมีรายได้ที่มั่นคง
โอกาสนี้ รมว.ธรรมนัส ได้ปล่อยคาราวานรถ “กาแฟดีที่เชียงรายสู่ชุมชนเพื่อความยั่งยืน กาแฟลดโลกร้อน“ ภายใต้โครงการส่งเสริมและสร้างการรับรู้การผลิตกาแฟภาคเหนือตลอดห่วงโซ่อุปทาน โดย สำนักงานเกษตรจังหวัดเชียงราย กรมส่งเสริมการเกษตร อีกด้วย