“รมช.อามินทร์” ตอบกระทู้ถามสด แจงขั้นตอนยกเลิกประกาศ GMO ย้ำ ต้องมีมาตรการเข้มครอบคลุมทุกด้าน ขอเกษตรกรมั่นใจ พร้อมดูแลให้เกษตรกรมีความมั่นคง
นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้รับมอบหมายจากร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้เป็นผู้ตอบกระทู้ของ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล สส.แพร่ พรรคเพื่อไทย ที่ถามถึงการนำเข้าพืชตัดต่อพันธุกรรม (GMO) เข้ามาในประเทศไทย แทน ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ว่า การยกเลิกประกาศไม่สามารถทำได้ทันทีทันใด เพราะจำเป็นต้องมีมาตรการควบคุมและความชัดเจนทางกฎหมาย ขณะนี้กระทรวงอยู่ระหว่างการปรับปรุงร่างประกาศทั้งฉบับที่ 5, 8, 10 และ 11 ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งการปรับปรุงนี้ไม่ได้มุ่งเพียงเรื่องพืชดัดแปลงพันธุกรรมเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมการนำเข้าพืชต่างประเทศ ทั้งด้านกฎหมาย วิชาการ สุขาภิบาลพืช และความปลอดภัยทางชีวภาพ เพื่อให้การควบคุมเป็นไปอย่างรัดกุมและเหมาะสม
นายอามินทร์ กล่าวชี้แจงต่อว่า ขั้นตอนการออกประกาศใหม่ จะต้องใช้เวลาประมาณ 1 - 1.5 ปี โดยกระทรวงเกษตรฯ จะดำเนินการตามลำดับ โดยจะต้องมีการวิเคราะห์ความเสี่ยงศัตรูพืช เพื่อประเมินผลกระทบด้านเกษตรและสิ่งแวดล้อม จากนั้นต้องเสนออนุกรรมการด้านการนำเข้าสิ่งต้องห้ามเพื่อการค้า เพื่อพิจารณากิจการและความเหมาะสมของประกาศ รวมถึงแจ้งร่างประกาศต่อประเทศสมาชิกองค์การค้าโลก (WTO) เพื่อให้มีการพิจารณาและรับทราบ และประกาศมติรัฐมนตรี หลังผ่านทุกขั้นตอนและตรวจสอบความเรียบร้อยครบถ้วน
“การนำเข้าข้าวโพด เกิดขึ้นจากผลผลิตในประเทศที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการ จึงจำเป็นต้องรักษาการนำเข้าเพื่อรองรับราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ โดยในปี 2569 คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าวโพดสัตว์เลี้ยงได้กำหนดให้โรงงานอาหารสัตว์ต้องรับซื้อข้าวโพดในประเทศก่อน และกำหนดราคาข้าวโพดสัตว์เลี้ยงที่ความชื้น 14.5% อยู่ที่ 9.80 บาทต่อกิโลกรัม ส่วนข้าวโพดที่ความชื้น 30% จากเกษตรกรผ่านผู้รวบรวมพื้นที่กำหนดราคา 7.05 บาทต่อกิโลกรัม พร้อมทั้งมีการควบคุมและตรวจสอบการซื้อขายให้เป็นไปตามมาตรฐาน”นายอามินทร์ ระบุ
ทั้งนี้ นายอามินทร์ กล่าวยืนยันว่า จะนำข้อเสนอในการอภิปรายวาระแถลงนโยบายและกระทู้ถามในวันนี้ ไปปรึกษาหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ เพื่อปรับปรุงและออกประกาศต่อไป โดยกระทรวงเกษตรฯจะทำงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกษตรกรได้รับความมั่นคงด้านเกษตรกรรมอย่างแท้จริง