รมช.นเรศ ห่วงใยประชาชน ลุย อยุธยา - อ่างทอง ติดตามสถานการณ์อุทกภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมรับมือแก้ไขปัญหาทันท่วงที
นายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์อุทกภัย โดยมี นายธนสาร ธรรมสอน ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายสุริยพล นุชอนงค์ อธิบดีกรมชลประทาน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ณ ห้องประชุมสำนักงานชลประทานที่ 11 ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ว่า สืบเนื่องจากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และจังหวัดอ่างทองจากผลกระทบของพายุ "คัลแมกี” ในครั้งนี้ภาพรวมสถานการณ์เริ่มคลี่คลายหลายจังหวัดในภาคเหนือตอนบน แต่มวลน้ำเริ่มลงมาบริเวณภาคกลาง จึงยังต้องเฝ้าระวังน้ำล้นและน้ำท่วมในลุ่มเจ้าพระยา ซึ่งร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีความห่วงใยพี่น้องเกษตรกร จึงได้สั่งให้เร่งบริหารจัดการการระบายน้ำอย่างทั่วถึง พร้อมหารือแนวทางการป้องกันและฟื้นฟูพื้นที่เกษตรจากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ดังกล่าว พร้อมรับฟังการรายงานสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่เขตรับผิดชอบของสำนักงานชลประทานที่ 10 - 12 เพื่อหารือแนวทางรับมือและแก้ไขปัญหาอุทกภัยอย่างเร่งด่วน
โดยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะ เดินทางไปยังประตูระบายน้ำสิงหนาท 2 โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเจ้าเจ็ด-บางยี่หน ต.บ้านม้า อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อติดตามสถานการณ์อุทกภัยและรับฟังบรรยายการบริหารจัดการน้ำโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษา โดยได้มอบหมายให้กรมชลประทานเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อุทกภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งหารือแนวทางในการช่วยเหลือเกษตรกรภายหลังสถานการณ์น้ำกลับสู่สภาวะปกติ และสร้างความมั่นใจแก่เกษตรในพื้นที่
จากนั้นได้เดินทางไปยังประตูระบายน้ำปากคลองบางบาล ต.ไทรน้อย อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมรับฟังปัญหาของเกษตรกรในพื้นที่ ในโอกาสนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ส่งมอบถุงยังชีพ จำนวน 500 ชุด แก่เกษตรกรเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเฉพาะหน้าหลังสถานการณ์อุทกภัยคลี่คลาย สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการทำงานเชิงรุก เคียงข้างประชาชน พร้อมเดินหน้าฟื้นฟู เยียวยา และเสริมความเข้มแข็งของชุมชนอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน
นอกจากนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะ ได้เดินทางต่อไปยังวัดอัมพวัน ต.นรสิงห์ อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง ตรวจติดตามสถานการณ์น้ำ ซึ่งยังคงมีน้ำท่วมขังบางจุด พร้อมกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ให้เร็วที่สุด รวมถึงเตรียมฟื้นฟูระบบชลประทานหลังน้ำลด อีกทั้ง สร้างขวัญกำลังใจให้แก่พี่น้องในพื้นที่ และมอบถุงยังชีพเพิ่มเติมอีก 500 ชุด อีกด้วย
ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมชลประทาน ได้มีการบริหารจัดการน้ำด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ด้วยการรับน้ำเข้าระบบชลประทานทั้งสองฝั่งเต็มศักยภาพ รวม 600 ลบ.ม.ต่อ วินาที ปัจจุบันปริมาณน้ำผ่านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา อัตรา 2,800 ลบ.ม. ต่อ วินาที ซึ่งได้มีการปรับลดการระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จากอัตรา 350 ลบ.ม. ต่อ วินาที เหลือ 300 ลบ.ม. ต่อวินาที เพื่อช่วยลดผลกระทบพื้นที่ตอนล่าง และเร่งระบายน้ำจากตอนบนลงสู่แม่น้ำบางปะกงและอ่าวไทยโดยเร็วที่สุด