1. เปลี่ยนการแสดงผล :
    2. C
    3. C
    4. C
    5. C
    6. ตัวช่วยการเข้าถึงเว็บไซต์
    7. แผนผังเว็บไซต์
    8. EN
    9. TH
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
Ministry of Agriculture and Cooperatives
ตราสัญลักษณ์ 133 ปี กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กรมการข้าว ห่วง “ข้าววัชพืช” ระบาดหนักภาคอีสาน และ ภาคกลาง แนะ 10 วิธี ป้องกันและกำจัด ลดการระบาด
13 พ.ย. 2568
126
0
กรมการข้าวห่วง“ข้าววัชพืช”ระบาดหนักภาคอีสาน
กรมการข้าว ห่วง “ข้าววัชพืช” ระบาดหนักภาคอีสาน และ ภาคกลาง แนะ 10 วิธี ป้องกันและกำจัด ลดการระบาด

          ข้าววัชพืช คือ ข้าวที่เกิดจากการผสมพันธุ์ข้ามระหว่างข้าวป่าที่พบทั่วไปในธรรมชาติกับข้าวปลูกซึ่งส่วนใหญ่เป็นลักษณะที่ชาวนาไม่ต้องการ คือ ปลายเมล็ดมีหางยาว ออกดอกเร็วกว่าข้าวปลูก เมล็ดสุกแก่ก่อน และร่วงเกือบหมดก่อนเวลาเก็บเกี่ยว โดยจะสังเกตได้จากสีของข้าวเปลือกและสีของเยื่อหุ้มเมล็ด ที่จะมีสีแดงน้ำตาล สีแดง และอาจมีสีขาวได้ ข้าววัชพืช สามารถจำแนกตามลักษณะภายนอกของข้าววัชพืชได้เป็น 3 ลักษณะ คือ ข้าวหางหรือข้าวนก ข้าวแดงหรือข้าวลาย และข้าวดีดหรือข้าวเด้ง

          ในช่วงระยะเวลา 2 – 3 ปี ที่ผ่านมา ข้าววัชพืชได้มีการระบาดมาอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มการระบาดขยายเป็นวงกว้างมากขึ้น โดยในปัจจุบัน ข้าววัชพืชได้ระบาดรุนแรงเป็นจำนวนมากในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางของประเทศไทย ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ปลูกข้าวของพี่น้องชาวนาเป็นอย่างมาก กรมการข้าวหน่วยงานที่มีภารกิจหลักเกี่ยวกับข้าวและชาวนา จึงได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบและ ประชาสัมพันธ์องค์ความรู้ให้แก่ชาวนาถึงวิธีป้องกันและกำจัดข้าววัชพืช โดยพี่น้องชาวนาสามารถดำเนินการตามคำแนะนำของกรมการข้าวได้ ดังนี้

          1. เลื่อนเวลาปลูกไปเป็นช่วง กลางเดือน ก.ค. – ส.ค. ที่ช่วยลดจำนวนข้าววัชพืชได้มาก

          2. เลือกใช้เมล็ดพันธุ์จากแหล่งที่เชื่อถือได้ หรือมีคุณภาพเทียบเท่าเมล็ดพันธุ์ข้าวจากกรมการข้าว
ซึ่งจะช่วยให้มั่นใจได้ว่าเมล็ดพันธุ์มีมาตรฐาน ไม่มีพันธุ์ปน ความงอกสูง แข็งแรงสามารถแข่งขันกับวัชพืชได้

          3. ล่อให้งอกแล้วไถกลบ โดยการเตรียมดิน – ปล่อยให้งอก แล้วไถกลบ 1–3 ครั้ง จะสามารถลดข้าววัชพืชได้มากกว่า 50% นอกจากนี้ให้ปลูกปอเทืองร่วมด้วย จะช่วยปรับดินและกำจัดวัชพืชไปพร้อมกัน

          4. เตรียมดินให้ดี โดยการไถ พรวน ตีดิน 1 รอบ แล้วคราดทำเทือกให้เรียบ เพื่อเตรียมพร้อมก่อนปลูก

          5. ใช้อัตราเมล็ดพันธุ์ที่เหมาะสม โดยการ ปักดำ : ให้ใช้ปริมาณเมล็ดพันธุ์ 7 – 10 กก. ต่อไร่ ส่วนนาหว่าน : ให้ใช้ปริมาณเมล็ดพันธุ์ 18 – 24 กก. ต่อไร่ ซึ่งการใช้อัตราที่เหมาะสมจะช่วยให้ข้าวโตเร็ว แข่งกับวัชพืชได้

          6. เปลี่ยนวิธีปลูกจาก “นาหว่าน” ให้เปลี่ยนเป็น “ปักดำ” หรือ “โยนกล้า” แทน

          7. ใช้สารกำจัดวัชพืชให้ถูกวิธี โดยนาหว่านแห้ง : ไม่ควรใช้สารเคมี ควรใช้วิธีล่อให้งอกแล้วไถกลบแทน ส่วนนาหว่านน้ำตม : ให้ใช้สาร ออกซาไดอะซอน หลังหว่าน 3 วัน อัตรา 500 มล. ต่อไร่ และ โพรพานิล หลังหว่าน 8 –10 วัน และนาปักดำ : ใช้ ไดเมธทีนามิด หลังปักดำ 3 วัน ในอัตรา 100 มล. ต่อไร่ และ โพรพานิล หลัง 10 วัน

          8. ลูบรวงข้าววัชพืชด้วยสารเคมีเฉพาะจุด โดยใช้ กลูโฟซิเนต - แอมโมเนียม อัตรา 100 - 200 มล. ต่อน้ำ 1 ลิตรลูบช่วงข้าววัชพืชเริ่มออกรวง และตากเกสรไม่เกิน 3 วัน

          9. ถอนหรือตัดข้าววัชพืชเป็นระยะ โดยถอนหรือใช้เครื่องตัดหญ้า 3 ครั้ง ในระยะต้นกล้า แตกกอ และตั้งท้องที่จะช่วยเพิ่มผลผลิตข้าวได้มากกว่า 80%

          10. จัดการน้ำในนาอย่างเหมาะสม โดยหากขังน้ำในนาไว้ประมาณ 1 เดือน จะช่วยลดเมล็ดข้าววัชพืชในดินได้ราว 30%

สำหรับขั้นตอนกระบวนการทั้ง 10 ข้อนี้ จะสามารถป้องกันและกำจัดข้าววัชพืชได้ โดยกรมการข้าวจะนำเสนอและประชาสัมพันธ์ข้อมูลเหล่านี้ให้พี่น้องชาวนาได้รับทราบต่อไป โดยเกษตรกรท่านใดมีข้อสงสัย สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หน่วยงานกรมการข้าวใกล้บ้านท่าน

Loading...
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ตกลง