นายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดกิจกรรมชี้แจงการดำเนินงาน “โครงการบริหารจัดการดินและน้ำทั้งบนดินและใต้ดินในพื้นที่เสี่ยงภัยแล้งเพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิตของเกษตรกร ปีงบประมาณ พ.ศ. 2569” ณ อาคารศูนย์ส่งเสริมอาชีพเทศบาลตำบลยางคราม อำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่ ว่า โครงการนี้ถือเป็นภารกิจสำคัญของกรมพัฒนาที่ดินในการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตร และสร้างระบบบริหารจัดการดินและน้ำที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้เกษตรกรมีน้ำใช้เพียงพอ ตลอดจนยกระดับคุณภาพชีวิตและความมั่นคงด้านอาชีพอย่างยั่งยืน
รมช.นเรศ กล่าวว่า พื้นที่ตำบลยางคราม อำเภอดอยหล่อ เป็นแหล่งผลิตทางการเกษตรสำคัญที่เผชิญปัญหาภัยแล้งเป็นประจำ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงได้กำหนดเป็นพื้นที่เป้าหมายในการดำเนินงานปี 2569 ครอบคลุมพื้นที่รวม 450 ไร่ โดยดำเนินกิจกรรมสำคัญ ได้แก่ การจัดทำระบบอนุรักษ์ดินและน้ำเพื่อปรับปรุงพื้นที่ให้เหมาะสมต่อการกักเก็บน้ำ รักษาความชุ่มชื้น และป้องกันการสูญเสียหน้าดิน รวมทั้งก่อสร้างมาตรการบริหารจัดการน้ำใต้ดิน จำนวน 15 แห่ง เพื่อเก็บกักน้ำฝนและเร่งการเติมน้ำใต้ดิน ช่วยเพิ่มระดับน้ำสำรองสำหรับการเพาะปลูกในฤดูแล้ง
“กระทรวงเกษตรฯ ให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาน้ำอย่างเป็นระบบ ทั้งการเสริมประสิทธิภาพแหล่งน้ำและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดินและน้ำ โดยกรมพัฒนาที่ดินได้รับงบประมาณกว่า 96 ล้านบาท เพื่อดำเนินการครอบคลุมทั้งอำเภอดอยหล่อ พร้อมบูรณาการการทำงานร่วมกับกรมชลประทานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการกักเก็บและการไหลเวียนของน้ำตั้งแต่ต้นน้ำแม่วางถึงลุ่มน้ำปิง เชื่อมั่นว่าโครงการนี้จะช่วยเพิ่มความมั่นคงด้านทรัพยากรน้ำ และเสริมศักยภาพการผลิตให้กับเกษตรกรในพื้นที่ดอยหล่อ รองรับสถานการณ์ภัยแล้งที่เกิดขึ้นซ้ำซากในทุกปี” รมช.นเรศ กล่าว
รมช.นเรศ กล่าวทิ้งท้ายว่า ขณะเดียวกัน ยังเดินหน้าสำรวจจุดเสี่ยงอุทกภัย และพื้นที่ที่จำเป็นต้องขุดลอกลำคลองหรือสร้างฝายชะลอน้ำ เพื่อป้องกันน้ำหลากในฤดูฝนและเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง โดยเน้นการบริหารจัดการน้ำแบบเชื่อมโยงทั้งระบบ