1. เปลี่ยนการแสดงผล :
    2. C
    3. C
    4. C
    5. C
    6. ตัวช่วยการเข้าถึงเว็บไซต์
    7. แผนผังเว็บไซต์
    8. EN
    9. TH
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
Ministry of Agriculture and Cooperatives
ตราสัญลักษณ์ 133 ปี กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
“รมช.นเรศ” ลงพื้นที่ จ.ลำพูน ติดตามสถานการณ์การถ่ายโอนฝายพญาอุต พร้อมวางแนวทางการขุดลอกแม่น้ำปิง แก้ปัญหาน้ำท่วมพื้นที่เกษตรกรรมอย่างยั่งยืน
6 ธ.ค. 2568
89
0
“รมช.นเรศ”ลงพื้นที่จ.ลำพูนติดตามสถานการณ์การถ่ายโอนฝายพญาอุต
“รมช.นเรศ” ลงพื้นที่ จ.ลำพูน ติดตามสถานการณ์การถ่ายโอนฝายพญาอุต พร้อมวางแนวทางการขุดลอกแม่น้ำปิง แก้ปัญหาน้ำท่วมพื้นที่เกษตรกรรมอย่างยั่งยืน

    นายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่พบปะเกษตรกร พร้อมติดตามการถ่ายโอนฝายพญาอุต และการวางแนวทางการขุดลอกแม่น้ำปิง ณ ตำบลริมปิง อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน ว่า  โครงการปรับปรุงฝายพญาอุตอยู่ภายใต้การดูแลของเทศบาลตำบลริมปิง ตั้งแต่ปี 2546 มีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมพื้นที่การเกษตรและที่อยู่อาศัยบริเวณเหนือน้ำ และปัจจุบันฝายมีศักยภาพการระบายน้ำไม่เพียงพอทำให้น้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมที่อยู่อาศัย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมชลประทานกำลังเร่งศึกษาออกแบบและอยู่ระหว่างดำเนินการขออนุญาตใช้พื้นที่จากกรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม เพื่อก่อสร้างอาคารควบคุมการระบายน้ำพร้อมอาคารประกอบ จำนวน 1 แห่ง เพื่อเป็นแหล่งเก็บกักน้ำต้นทุนสำหรับพื้นที่การเกษตรประมาณ 3,200 ไร่ ในตำบลริมปิงและตำบลต้นธง รวมถึงสามารถเป็นแหล่งน้ำดิบสำหรับผลิตน้ำประปาให้การประปาส่วนภูมิภาค ได้ถึง 120,000 ลบ.ม.ต่อสัปดาห์ อีกทั้ง ช่วยลดปัญหาน้ำท่วมในเขตเศรษฐกิจและตัวเมืองลำพูนได้อีกด้วย

     นอกจากนี้ รมช.นเรศ นำคณะเดินทางต่อไปยังบ้านแม่สะป๊วด ตำบลทาสบเส้า อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน เพื่อติดตามสถานการณ์การก่อสร้างโครงการอ่างเก็บน้ำแม่สะป๊วดอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งเป็นโครงการที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการสร้างความมั่นคงทางด้านน้ำเพื่อการเกษตร หากก่อสร้างเสร็จจะมีพื้นที่รับประโยชน์กว่า 6,157 ไร่ ประชาชนสามารถใช้อุปโภคบริโภคได้กว่า 2,700 ครัวเรือน แต่เนื่องจากปัญหาความซับซ้อนในการขออนุญาตใช้พื้นที่ซึ่งคาบเกี่ยวหลายหน่วยงาน ได้แก่ กรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม จึงต้องเร่งบูรณาการหลายภาคส่วนเพื่อให้ประชาชนมีขีวิตความเป็นอยู่ที่ดียิ่งขึ้นต่อไป

 

 

 

 

Loading...
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ตกลง