ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) กรมชลประทาน เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำว่า ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ 9 ธ.ค.68) อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำรวมกันประมาณ 69,198 ล้าน ลบ.ม. (90% ของความจุอ่างฯ รวมกัน) เฉพาะ 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวม 24,350 ล้าน ลบ.ม. (98% ของความจุอ่างฯ รวมกัน)
ทั้งนี้ จากการติดตามคาดการณ์สภาพอากาศร่วมกับกรมอุตุนิยมวิทยา สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) และสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ พบว่า ช่วงวันที่ 11 – 15 ธันวาคม 2568 มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือจะพัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันต่อเนื่อง ส่งผลให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจังหวัด นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ตรัง ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อาจมีฝนตกหนักบางแห่ง สถานการณ์ดังกล่าวอาจทำให้เกิด น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม รวมถึงน้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองจากการระบายน้ำไม่ทัน และระดับน้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ลุ่มต่ำได้
กรมชลประทาน ได้สั่งการให้โครงการชลประทานในพื้นที่ภาคใต้ ติดตามสถานการณ์น้ำฝน–น้ำท่า และข้อมูลสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งตรวจสอบและเตรียมความพร้อมเครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำ และเครื่องจักรกลสาธารณภัยทุกชนิด ให้สามารถปฏิบัติงานได้ทันที นอกจากนี้ ยังได้บูรณาการข้อมูลร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสนับสนุนการแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงอย่างรวดเร็ว รวมถึงจัดเตรียมเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ เพื่อให้ความช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที หากเกิดเหตุฉุกเฉิน