1. เปลี่ยนการแสดงผล :
    2. C
    3. C
    4. C
    5. C
    6. ตัวช่วยการเข้าถึงเว็บไซต์
    7. แผนผังเว็บไซต์
    8. EN
    9. TH
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
Ministry of Agriculture and Cooperatives
ตราสัญลักษณ์ 133 ปี กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
รองปลัดเกษตรฯ เร่งผลักดัน (ร่าง) แผนปฏิบัติการด้านการเกษตรและสหกรณ์ พ.ศ. 2571 – 2575 ยกระดับเกษตรกรสู่ผู้ประกอบธุรกิจเกษตรสมัยใหม่ รับมือสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงด้านการเกษตรในระยะ 5 ปีข้างหน้า สร้างความมั่นคงให้กับเกษตรกร
2 ธ.ค. 2568
121
0
รองปลัดเกษตรฯเร่งผลักดัน(ร่าง)แผนปฏิบัติการด้านการเกษตรและสหกรณ์
รองปลัดเกษตรฯ เร่งผลักดัน (ร่าง) แผนปฏิบัติการด้านการเกษตรและสหกรณ์ พ.ศ. 2571 – 2575 ยกระดับเกษตรกรสู่ผู้ประกอบธุรกิจเกษตรสมัยใหม่ รับมือสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงด้านการเกษตรในระยะ 5 ปีข้างหน้า สร้างความมั่นคงให้กับเกษตรกร

รองปลัดเกษตรฯ เร่งผลักดัน (ร่าง) แผนปฏิบัติการด้านการเกษตรและสหกรณ์ พ.ศ. 2571 – 2575 ยกระดับเกษตรกรสู่ผู้ประกอบธุรกิจเกษตรสมัยใหม่ รับมือสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงด้านการเกษตรในระยะ 5 ปีข้างหน้า สร้างความมั่นคงให้กับเกษตรกร

     นางสาวทัศนีย์ เมืองแก้ว รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้รับมอบหมายจากนายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการจัดทำแผนปฏิบัติการด้านการเกษตรและสหกรณ์ พ.ศ. 2571 – 2575 ครั้งที่ 1/2568 โดยมี ผู้บริหารในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ณ ห้องประชุมกระทรวงเกษตรและสหกรณื 134 – 135 เพื่อพิจารณา (ร่าง) แผนปฏิบัติการด้านการเกษตรและสหกรณ์ พ.ศ. 2571 – 2575 เพื่อใช้เป็นกรอบแนวทางในการขับเคลื่อนการพัฒนาภาคเกษตรของประเทศ ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. 2561 – 2580 แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รวมถึงให้สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) แห่งสหประชาชาติในส่วนที่เกี่ยวข้องกับภาคการเกษตร ทั้งนี้ รองปลัดเกษตรฯ ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทบทวนสถานการณ์และคาดการณ์แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงด้านการเกษตรในระยะ 5 ปีข้างหน้า เพื่อยกระดับศักยภาพเกษตรกรและสถาบันเกษตรกรสู่ผู้ประกอบธุรกิจเกษตรสมัยใหม่ ให้เกิดการพัฒนาการผลิตสินค้าเกษตรและบริการมูลค่าสูง พร้อมทั้งวางแผนขับเคลื่อนการประกันภัยสินค้าเกษตรเพื่อคุ้มครองความเสียหายจากภัยธรรมชาติ ศัตรูพืช และโรคระบาด ให้เกิดการสร้างเสถียรภาพรายได้และความมั่นคงอาชีพให้กับเกษตรกร

     สำหรับที่ประชุมได้มีการพิจารณาการจัดทำ (ร่าง) แผนปฏิบัติการด้านการเกษตรและสหกรณ์ พ.ศ. 2571 – 2575 ประกอบด้วย 1) กระบวนการจัดทำแผนปฏิบัติการด้านการเกษตรและสหกรณ์ 2) องค์ประกอบของแผนปฏิบัติการด้านการเกษตรและสหกรณ์ 3) การทบทวนสถานการณ์ ผลการพัฒนาภาคการเกษตร แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงในระยะ 5 ปีข้างหน้า และการวิเคราะห์สภาพแวดล้อม และ 4) สาระสำคัญของแผนปฏิบัติการด้านการเกษตรและสหกรณ์ พ.ศ. 2571 – 2575 เพื่อนำข้อมูลจากหลายภาคส่วนมาวางแผนขับเคลื่อนด้านการเกษตรให้ก้าวไปข้างหน้า โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อเพิ่มอัตราการขยายตัวของ GDP ภาคเกษตรไม่น้อยกว่าร้อยละ 4.5 ต่อปี และเพิ่มผลิตภาพการผลิตเฉลี่ยไม่น้อยกว่าร้อยละ 1.2 ต่อปี ซึ่งทิศทางการพัฒนาในอีก 5 ปีข้างหน้า ได้มีการประเมินแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงที่มีผลต่อการกำหนดทิศทางการพัฒนาการเกษตร ออกเป็น 6 ประการ ได้แก่ 1) การเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลก 2) ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี (AI เกษตรอัจฉริยะ) 3) การเข้าสู่สังคมสูงวัย 4) การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และ 5) กระแสการเติบโตแบบสีเขียว (Green Growth) โดยนำแนวโน้มข้างต้นมากำหนดประเด็นการพัฒนาไว้ 4 ประเด็นได้แก่ 1) การเสริมสร้างศักยภาพของเกษตรกร สถาบันเกษตรกร และผู้ประกอบการธุรกิจเกษตรให้เข้มแข็งอย่างยั่งยืน 2) การยกระดับการผลิตสู่เกษตรอัจฉริยะ ปลอดภัย และยั่งยืน 3) การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าเกษตรมูลค่าสูงด้วยการแปรรูปและการตลาด และ 4) การพัฒนาระบบนิเวศทางการเกษตรเพื่อความมั่นคง

     สำหรับสถานการณ์ภาคการเกษตร (พ.ศ. 2563 - 2567) ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา มีแนวโน้มที่สำคัญของภาคการเกษตร ได้แก่ 1) ด้านเศรษฐกิจการเกษตร เห็นได้ว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภาคเกษตร (GDP) มีความผันผวนและขยายตัวได้เล็กน้อย โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยเพียง ร้อยละ 0.50 ต่อปี (จาก 649,198 ล้านบาทในปี 2563 เป็น 686,354 ล้านบาทในปี 2567) ซึ่งปี 2567 หดตัวร้อยละ 1.06 เนื่องจากปรากฏการณ์เอลนีโญที่ทำให้ฝนน้อยและลานีญาทำให้ไทยเผชิญมรสุมพื้นที่เกษตรกรรมได้รับความเสียหาย ในส่วนผลิตภาพการผลิตรวม (TFP) มีอัตราการขยายตัวเฉลี่ยเพียง ร้อยละ 0.06 ซึ่งสะท้อนการเติบโตที่ชะลอตัวและข้อจำกัดเชิงโครงสร้าง เช่น การลดลงของแรงงานและที่ดิน สำหรับรายได้เงินสดสุทธิครัวเรือนเกษตร มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจาก 285,453 บาท/ครัวเรือน ในปี 2563 เป็น 308,294 บาท/ครัวเรือน ในปี 2567 สัดส่วนหนี้สินต่อทรัพย์สินเกษตรลดลงจากร้อยละ 7.72 เหลือร้อยละ 6.50 และด้านการค้าระหว่างประเทศ โดยมูลค่าส่งออกสินค้าเกษตรเพิ่มขึ้นจาก 1.3 ล้านล้านบาทในปี 2563 เป็น 1.9 ล้านล้านบาท ในปี 2567 โดยสินค้าส่งออกมูลค่าสูงสุด 3 อันดับแรกในปี 2567 คือ ผลไม้และผลิตภัณฑ์ ยางธรรมชาติ และข้าว ในส่วนสินค้าเกษตรนำเข้าที่มีมูลค่าสูงสุด 3 อันดับแรก ในปี 2567 ได้แก่ ปลาและผลิตภัณฑ์ พืชอาหาร และกากเศษเหลือที่ใช้เพื่อทำอาหารสัตว์ 2) ด้านปัจจัยการผลิต มีเนื้อที่ใช้ประโยชน์ทางการเกษตรอยู่ที่ประมาณ 147.73 ล้านไร่ (ปี 2566) คิดเป็นร้อยละ 46.06 ของเนื้อที่ทั้งประเทศ โดยแบ่งเป็นปลูกนาข้าว ไม้ผล ไม้ยืนต้น พืชไร่ พืชผัก ไม้ดอกไม้ประดับ ตามลำดับ ในส่วนประชากรและแรงงาน มีแนวโน้มลดลงและเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างชัดเจน แบ่งเป็น ประชากรภาคเกษตร ลดลงจาก 31.36 ล้านคน (ปี 2563) เหลือ 28.31 ล้านคน (ปี 2567) และแรงงานภาคเกษตร ลดลงจาก 21.15 ล้านคน (ปี 2563) เหลือ 18.75 ล้านคน (ปี 2567) นอกจากนี้ ยังมีแนวโน้มการนำเข้าปุ๋ย สารเคมี และเครื่องจักรกลทางการเกษตรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนการพึ่งพาปัจจัยการผลิตจากภายนอกและการใช้เทคโนโลยีทดแทนแรงงานที่มีจำนวนลดลงด้วย

Loading...
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ตกลง