นายพิบูลย์ชัย ชวนชื่น
17 เม.ย. 2567
3,076
0
ปราชญ์เกษตรของแผ่นดิน สาขาปราชญ์เกษตรดีเด่น ปี 2567
นายพิบูลย์ชัย ชวนชื่น
นายพิบูลย์ชัย ชวนชื่น

สาขาปราชญ์เกษตรดีเด่น

นายพิบูลย์ชัย ชวนชื่น

อายุ                        52 ปี

การศึกษา                  ปริญญาตรี วิทยาศาสตร์การเดินเรือ ศูนย์ฝึกพาณิชย์นาวี

สถาบันสมทบมหาวิทยาลัยบูรพา

สถานภาพ                 สมรส  

ที่อยู่                        บ้านเลขที่ 190/3 หมู่ที่ 1 ตำบลสวนหลวง อำเภอกระทุ่มแบน

จังหวัดสมุทรสาคร 74110

โทรศัพท์                   08-1313-7690

อาชีพ                      เกษตรกร

คุณลักษณะส่วนบุคคล

          นายพิบูลย์ชัย ชวนชื่น ดำเนินกิจกรรมการเพาะพันธุ์ และเลี้ยงปลากัดสวยงาม โดยเริ่มจากการเลี้ยงไว้เพื่อความสวยงามเป็นงานอดิเรก และมีการแลกเปลี่ยนซื้อขายกันภายในกลุ่มเล็ก ๆ ของผู้เลี้ยงปลากัด   แล้วจึงเป็นโอกาสได้พัฒนามาเป็นธุรกิจที่สามารถสร้างรายได้ให้แก่ครอบครัวจากฟาร์มเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ขนาดเล็กยกระดับเป็นฟาร์มขนาดกลาง ภายใต้ชื่อ เยาวลักษณ์ฟาร์ม พร้อมทั้งสร้างเครือข่ายกลุ่มผู้เพาะเลี้ยงปลากัดสวยงามในจังหวัดสมุทรสาคร ภายใต้ชื่อกลุ่ม Betta Sakorn และจังหวัดใกล้เคียง อีกทั้งเป็นผู้รวบรวมและส่งออกปลากัดสวยงามไปยังต่างประเทศ เป็นบุคคลตัวอย่าง ที่มีความขยัน มานะอดทน ใช้เวลาว่าง      ในการคิดค้นพัฒนาพันธุ์ปลากัดให้มีความสวยงาม มีสีสันแปลกตา และพัฒนาปรับเปลี่ยนรูปแบบการเลี้ยง   ให้สามารถลดต้นทุนการผลิตสามารถพึ่งพาตนเอง และเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านการเพาะพันธุ์และเลี้ยงปลากัดสวยงามแบบครบวงจรของจังหวัดสมุทรสาคร

ผลงานสร้างคุณประโยชน์

          นายพิบูลย์ชัย ชวนชื่น คิดค้นและพัฒนาสายพันธุ์ปลากัดสวยงามที่มีชื่อทางการค้าว่า “เรดดราก้อน” ได้เป็นคนแรกของโลก โดยพัฒนามาจากปลากัดดั้งเดิม (betta splendens) กับปลากัดป่ามหาชัย (betta mahachaiensis) โดยปลากัด red dragon มีการพัฒนาการต่อยอดตามลำดับดังนี้ ระยะแรก (generation 1)  พัฒนาการจากปลาที่มีเกล็ดบริเวณลำตัวเงาแวววาวและมีครีบทั้งหมดเป็นสีแดง (red dragon) เปลี่ยนเป็นปลาที่มีครีบเป็นสีอื่น ๆ เช่น ครีบสีดำ (black dragon) ครีบสีเหลือง (yellow dragon) ครีบสีส้ม (orange dragon) ระยะที่ 2 (generation 2) พัฒนารูปทรงเป็นปลากัดครีบยาวหางพระจันทร์ครึ่งดวง (half moon)  ปลากัดครีบยาวสองหางคู่ (full moon) และระยะปัจจุบัน (generation 3) ถูกต่อยอดพัฒนาสีและรูปทรงให้มีความหลากหลาย แปลกตา แต่ก็ยังคงจุดเด่นที่มีเกล็ดเงาแวววาว

          การพัฒนาอาชีพเพาะเลี้ยงปลากัดสวยงามให้มีรายได้เพิ่มมากขึ้นด้วยการลดต้นทุนในการผลิต โดยใช้  ภูมิปัญญาท้องถิ่นด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น การใช้ใบหูกวาง ใบกล้วยใส่ในบ่อเลี้ยง (ปรับสมดุลตามธรรมชาติ) ช่วยบำบัดน้ำในบ่อเลี้ยง ไม่ต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำบ่อย สภาพแวดล้อมดี ปลากัดเจริญเติบโตเร็ว และนำสมุนไพรพื้นบ้านและจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง (PSB) มาใช้ในการเลี้ยงปลากัดทำให้ปลาแข็งแรงเป็นการลดการใช้สารเคมี (ยาฆ่าเชื้อ)

          การพัฒนารูปแบบการเลี้ยงปลากัด เช่น การเลี้ยงปลากัดในขวดน้ำพลาสติกที่เหลือจากการใช้แล้วแทนการเลี้ยงในขวดแก้วแบน ทำให้ลดต้นทุนในการเลี้ยงและไม่เกิดอันตราย สะดวกต่อการทำความสะอาด ทำให้เชื้อโรคต่างๆ ถูกทำลาย ส่งผลให้พ่อพันธุ์แม่พันธุ์ปลาแข็งแรง ไม่เกิดโรค

          เยาวลักษณ์ฟาร์ม ได้รับการรับรองมาตรฐานฟาร์มเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำสวยงามเพื่อการส่งออก GAP สถานประกอบการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเพื่อการส่งออก (สอ.3) และสถานรวบรวมสัตว์น้ำเพื่อการส่งออก (สอ.4) จากกรมประมง ได้รับการรับรองเป็นฟาร์มปลอดเชื้อ Megalocytivirus จากกองวิจัยและพัฒนาสุขภาพสัตว์น้ำ และมาตรฐานฟาร์มปลาสวยงามเพื่อการส่งออกจากสถาบัน AQSIQ สามารถส่งปลากัดไปยังประเทศออสเตรเลีย สหภาพยุโรป ญี่ปุ่น กลุ่มตะวันออกกลาง เกาหลีใต้ จีน สหรัฐอเมริกา และแคนาดา เยาวลักษณ์ฟาร์ม    มีมูลค่าการส่งออกจำนวน 17,400,000 บาท/ปี และมูลค่าการส่งออกของกลุ่มสมาชิกเครือข่ายจำนวน 338,880,000 บาท/ปี ทำให้เกิดการขยายการผลิต เพิ่มการส่งออกและสร้างความร่วมมือระหว่างภูมิภาค ส่งผลให้ยกระดับรายได้มวลรวมของประเทศเพิ่มขึ้น

เป็นคณะกรรมการชุดต่างๆในระดับประเทศ ได้แก่ 1. ประธานสหกรณ์ปลาสวยงามแห่งสยาม จำกัด2. คณะทำงานจัดทำ “มาตรฐานปลากัดสวยงามในประเทศไทย”เพื่อยกระดับมาตรฐานการประกวดปลากัดสวยงามให้เป็นที่ยอมรับของสากล 3. คณะกรรมการวิชาการพิจารณามาตรฐานสินค้าเกษตร เรื่อง ปลากัดไทย4. คณะกรรมการจัดงานวันประมงน้อมเกล้า ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 จนถึงปัจจุบัน 5. คณะผู้ตัดสินปลากัดสวยงามในงานแสดงสินค้าเกษตรแห่งชาติ ของประเทศมาเลเซีย( MAHA)  และได้รับรางวัลเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี พ.ศ. 2563 สาขาอาชีพเพาะเลี้ยงปลาสวยงามและพรรณไม้น้ำ  ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

การขยายผลงาน

นายพิบูลย์ชัย ชวนชื่น เป็นเกษตรกรผู้มีองค์ความรู้การพัฒนาสายพันธุ์และเพาะเลี้ยงปลากัดสวยงามโดยเยาวลักษณ์ฟาร์ม เป็นศูนย์การเรียนรู้และถ่ายทอดเทคโนโลยีการเลี้ยงปลากัดสวยงามแบบครบวงจร และเป็นวิทยากรถ่ายทอดองค์ความรู้ให้แก่เกษตรกร นักศึกษา และผู้ที่สนใจ ทั้งนี้ มีการถ่ายทอดผลงานผ่านสื่อ     ที่หลากหลายและต่อเนื่อง เช่น บทความ วารสาร โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ และผ่านทางสื่อโซเซียลต่าง ๆ เช่น Facebook Youtube รวมถึงเป็นผู้เขียนบทความ เรื่อง Betta in Thailand ในหนังสือ Ornamental Fish and Aquatic Plants Thailand directory 2015 - 2017 บทความ เรื่อง “ปลากัด” ภาคภาษาอังกฤษ  ในหนังสือ Thailand directory ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2013 - ปัจจุบัน และหนังสือมาตรฐานปลากัดสวยงาม        ในประเทศไทย (ฉบับปรับปรุง  พ.ศ.2559) จึงมีกลุ่มเครือข่ายที่นำองค์ความรู้ไปปฏิบัติกระจายไปอย่างกว้างขวาง เช่น กลุ่มเบต้าสาคร จังหวัดสมุทรสาคร มีสมาชิก จำนวน 30 ราย กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้เพาะเลี้ยงปลาสวยงามนครปฐม (ปลาสวยงามแปลงใหญ่) มีสมาชิก จำนวน 140 ราย กลุ่มผู้เพาะเลี้ยงปลากัดสวยงาม จังหวัดอ่างทอง มีสมาชิก จำนวน 12 ราย สหกรณ์ปลาสวยงามแห่งสยามจำกัด มีสมาชิก จำนวน 130 คนสมาคมปลากัด มีสมาชิก จำนวน 350 คน

ปราชญ์เกษตรของแผ่นดิน
ตกลง